เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาพิจารณาการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพฯ เปิดเผยผลการหารือระหว่าง คณะกรรมาธิการฯ ผู้แทนจาก กองทัพอากาศ สำนักงานการบินพลเรือน และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) กรณีรับคืนสนามกอล์ฟกานตรัตน์ (สนามงู) โดยในที่ประชุม นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า การรับคืนพื้นที่ดังกล่าวจากกองทัพอากาศสามารถทำได้ โดยเน้นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแม้ที่ผ่านมา สถาบันการบินพลเรือน และองค์กรการบินระหว่างประเทศ (ICAO) จะรับรองความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก็ตาม แต่ที่ผ่านมา จากรายงานสถิติของท่าอากาศยานดอนเมือง พบว่ามีปัญหาเกิดขึ้น เช่น มีรถกอล์ฟ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ นักกอล์ฟไม่ระมัดระวังในการเดินตัดจุดผ่านของรันเวย์สนามบิน มียานพาหนะฝ่าฝืนสัญญาณไฟแจ้งเตือน นักกอล์ฟไม่ทราบวิธีการปฏิบัติในการขับรถกอล์ฟ และหอบังคับการบินมองไม่เห็นทางขับช่วงดังกล่าว เนื่องจากมีต้นไม้ของสนามกอล์ฟบดบัง แม้จะอยู่ในมาตรฐานความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แต่หากไม่มีสนามกอล์ฟ ก็จะมีความปลอดภัยสูงมากกว่า

นายกีรติ กล่าวต่อว่า หากรับคืนพื้นที่จากกองทัพอากาศ การท่าอากาศยานจะนำมาพัฒนาเป็นทางเชื่อมต่อของเครื่องบินเข้าสู่รันเวย์ที่ 1 และรันเวย์ที่ 2 ซึ่งจะทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่แผนการพัฒนาเพิ่มศักยภาพการบินในการเพิ่มเที่ยวบินหรือจำนวนผู้โดยสารในอนาคตอันใกล้นี้ได้  

ด้าน พล.อ.ต.ธนชัย อากาศวรรธนะ เจ้ากรมสวัสดิการทหารอากาศ ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2563 สนามกอล์ฟแห่งนี้ได้ถูกตรวจสอบมาโดยตลอดในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งยังยืนยันว่ามีความปลอดภัยทั้งในด้านมาตรฐานการบินและการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สนามบิน แต่หากรัฐบาลพิจารณาเห็นเป็นอย่างไร เป็นเรื่องในระดับนโยบาย ส่วนการชดเชยทางกองทัพอากาศ ได้ประเมินว่ามีค่าใช้จ่ายประมาณ 90 ถึง 100 ล้านบาทต่อปี หากคำนวณอยู่ที่ 30 ปี การท่าอากาศยานอาจต้องจ่ายชดเชยเป็นเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐบาลจะพิจารณาต่อไป

ขณะที่นายจิรายุ กล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการฯ เตรียมขอความเห็นเพิ่มเติมไปยังวิทยุการบินในเรื่องดังกล่าว เพื่อประกอบรายงานสรุปนำเสนอต่อรัฐสภาและรัฐบาลต่อไป.