เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สามีและแม่เดินทางจาก จ.นครพนม เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ สงสัยการเสียชีวิตของภรรยา อายุ 26 ปี หลังภรรยาเดินทางไปทำงานประเทศมาเลเซียกับเพื่อนแล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนแจ้งเสียชีวิตจากการช็อกหัวใจล้มเหลวให้สามีเดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อทำการเผา แต่สามีไม่มีเงินค่าส่งศพกลับและยังไม่ปักใจเชื่อการเสียชีวิต ขณะนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาลมะละกา ประเทศมาเลเซีย ต้องการนำศพกลับประเทศไทยเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากการเสียชีวิตของภรรยามีพิรุธหลายอย่าง

นายเล็ก (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สามี กล่าวว่า ตนกับภรรยามีลูกชาย 5 ขวบ 1 คน ตนมาทำงานเป็นช่างรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนน.ส.บี (นามสมมุติ) ภรรยา อายุ 26 ปี อยู่ จ.นครพนม มีอาชีพทำอาหารส่งให้กับเด็กอนุบาลโรงเรียนแห่งหนึ่ง กลางเดือน มี.ค. 67 ภรรยาเห็นเพื่อนไปทำงานต่างประเทศจึงสนใจและอยากไปทำงานต่างประเทศบ้าง จึงมาบอกกับตนว่าจะเดินทางไปเรียนภาษาและพักอยู่กับเพื่อนที่ จ.ชลบุรี ระหว่างนั้นตนกับภรรยาได้มีการติดต่อพูดคุยกันตลอด และตนได้พูดคุยกับภรรยาครั้งสุดท้ายวันที่ 18 เม.ย. 67 โดยภรรยาบอกว่ารองานอยู่ หลังจากนั้นไม่ได้คุยกัน เพราะเห็นว่าภรรยามีการโทรศัพท์คุยกับลูกชายอยู่

กระทั่งวันที่ 22 เม.ย. 67 ตนทราบเรื่องจาก นางบูม (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแม่ยาย โทรศัพท์มาบอกว่า ภรรยาตนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 67 ที่ประเทศมาเลเซีย ตนตกใจมากว่าภรรยาไปเสียชีวิตที่ประเทศมาเลเซียได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาตนคุยกับภรรยาทราบว่าอยู่ จ.ชลบุรี จึงได้ไปเปิดดูโทรศัพท์ของลูกชายพบว่าภรรยาพูดคุยกับลูกชายวันที่ 19 เม.ย. 67 ครั้งสุดท้าย ตนจึงได้ติดต่อไปสอบถามกับเพื่อนของภรรยาถึงสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยา เพื่อนก็บอกว่าภรรยาเสียชีวิตจากการช็อกหัวใจล้มเหลวและไม่ยอมให้ข้อมูลใด และเร่งรัดให้ตนเดินทางไปที่ประเทศมาเลเซียเพื่อทำการเผาศพภรรยาโดยเร็ว แต่ตนไม่ยอมให้เผาที่มาเลเซีย ขอให้ส่งศพมาชันสูตรการเสียชีวิตที่ประเทศไทย เนื่องจากการเสียชีวิตของภรรยามีพิรุธหลายอย่าง

ต่อมาวันที่ 24 เม.ย. 67 ตนได้ติดต่อสอบถามกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบว่ามีรายชื่อของภรรยาตนเดินทางไปที่ประเทศมาเลเซียหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่าภรรยาตนมีการเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 67 ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยรู้เลยว่าภรรยาเดินทางไป ตนจึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพราะสงสัยการเสียชีวิตของภรรยา และต้องการนำศพกลับประเทศไทย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว น.ส.บี ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งระยะหลังนี้มีหญิงไทยเสียชีวิตในต่างประเทศต่อเนื่องหลายคน มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องหญิงไทยเสียชีวิตตั้งแต่ต้นปี 2567 เฉพาะประเทศมาเลเซีย 4 ราย ประเทศบาห์เรน 1 ราย (รอส่งศพกลับประเทศไทย) ที่มีลักษณะมีเงื่อนงำ มีพิรุธ จึงขอเตือนหญิงไทยที่จะไปต่างประเทศให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน อยากให้หญิงไทยที่อยู่ประเทศมาเลเซียช่วยกันดูแลคนไทยด้วยกันให้ได้รับความปลอดภัย มูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำส่งศพ น.ส.บี ผู้เสียชีวิตกลับไทย และจะประสานสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงในเร็วนี้