เมื่อวันที่ 3 พ.ค. จากเหตุการณ์เพลิงไหม้สารเคมีที่มีการลักลอบนำซุกซ่อนเอาไว้ภายในโกดังในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์เครื่องมือจากหลายหน่วยงาน ในการดับเพลิงสารเคมี จนสามารถควบคุมเพลิงในช่วงเช้า ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้สารเคมีอย่างต่อเนื่อง จนช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. พบมีกลุ่มควันสีขาวจางๆ ลอยขึ้นมาเหนือหลังคาโกดัง แต่ยังไม่เห็นแสงเพลิง เจ้าหน้าที่มีการใช้โดรนจับความร้อนบินสำรวจ พบว่าบริเวณโกดัง 4 มีความร้อนระอุถึง 40 องศาฯ คาดว่าบริเวณโกดัง 4 น่าจะยังคงมีแสงเพลิงอยู่ด้านใน

จึงได้มีการวางแผนเพื่อเข้าสำรวจโกดัง 4 โดยการนำรถแบ๊กโฮแขนยาว ทำการเจาะผนังกำแพง เพื่อให้ทะลุเข้าไปด้านใน เมื่อนำรถแบ๊กโฮเจาะผนังกำแพงเข้าไป พบกองเพลิงกลุ่มหนึ่ง กำลังลุกไหม้ถังสารเคมีอยู่ จึงจะทำการใช้หัวโฟมผูกเข้ากับแขนของแบ๊กโฮ เพื่อยื่นเข้าไปฉีดด้วยโฟมดับไฟ จนกระทั่งช่วงเวลา 23.00 น. ดับไฟภายในโกดัง 4 ได้สนิท ซึ่งถือว่าใช้เวลายาวนาน 30 ชั่วโมง ในการควบคุมเพลิง และจากการใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนก็ไม่พบความร้อนและกลุ่มควัน หลังจากนี้ก็จะเป็นการเฝ้าระวัง ส่วนสาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้ ต้องรอทางกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าตรวจสอบตัวโครงสร้างโกดังว่ามีความมั่นคงและแข็งแรงหรือไม่ จากนั้นจึงจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้