เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า มีชายฉกรรจ์ 3 คน บุกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 หรือซอยสุทธิพร แขวงดินแดง เขตดินแดง เพื่ออุ้มชาวจีน 5 ราย ออกจากห้องพัก โดยสมอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะรีดไถเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท ก่อนปล่อยตัวผู้เสียหาย เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สรายุทธ ดีพันธุ์ สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง ไว้ก่อนหน้านี้
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1714718096870.jpg)
ต่อมา พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย ในข้อหา “ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”
กระทั่งล่าสุดสามารถจับกุมตัว นายอถรรวุฒิ สุมนรัตนกุล หรือ นายบอส หรือดาบบอส บุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นอดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งนายบอส แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาควบคุมตัวผู้เสียหายกับพวก อ้างว่า ชาวจีนทั้ง 5 ราย กระทำผิดกฎหมาย จะต้องพาไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ โดยระหว่างนั้น มีการพูดจาข่มขู่ และได้โชว์บัตรที่อ้างว่า เป็นบัตรตำรวจ แต่ยังไม่ทันที่ผู้เสียหายจะดู ว่าเป็นบัตรตำรวจจริงหรือไม่ อีกฝ่ายก็เก็บบัตรไป จากนั้นก็พยายามจะพาตัวไปที่สถานีตำรวจ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/1714718093869.jpg)
โดยควบคุมตัวกลุ่มผู้เสียหายกับพวกมาขึ้นรถยนต์ 2 คัน ที่จอดรออยู่บริเวณหน้าโรงแรม และได้ขับพาผู้เสียหายไปที่บริเวณใดไม่ทราบแน่ชัด ระหว่างทาง กลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการเกลี้ยกล่อมผู้เสียหายให้ยอมจ่ายเงิน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งในระหว่างทาง ผู้เสียหายพยายามขอดูบัตรตำรวจอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายบังคับให้นั่งลงดีๆ แล้วชูมือเหนือหัว ก่อนจะพูดว่า “ไม่ต้องคุยแล้ว เดี๋ยวไปคุยกับบอส” พร้อมบอกด้วยว่า “ไม่เชื่อใช่ไหมว่าเป็นตำรวจ เดี๋ยวจะโชว์ให้ดู” หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุได้ขับรถพาผู้เสียหายมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนจะพาลงจากรถ และพาไปเจอชายที่อ้างตัวว่าเป็นบอส อายุราว ๆ 50 ปี ขึ้นไป ได้แนะนำตัวว่าตนเองนั้นเป็นตำรวจ
จากนั้น คนที่เป็นบอส อ้างว่า “กลุ่มคนจีนนี้ มีเครื่องรูดบัตรอยู่ในห้อง ก็ถือว่าผิดกฎหมายแล้ว จ่ายมา 4 ล้านบาท” แต่ผู้เสียหายเห็นว่า แพงมากไม่มีเงินจ่าย อีกฝ่ายจึงเสนอจำนวนเงินเหลือ 3 ล้านบาท และเรื่องจะได้จบ ผู้เสียหายเกรงว่าจะถูกจับกุม จึงติดต่อหาเพื่อนชาวจีนที่อยู่ในประเทศกัมพูชา โอนเงินมาเข้าบัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัล ตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวต้องการ เป็นเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท เมื่อจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ปล่อยตัวผู้เสียหายให้ออกจากบริเวณดังกล่าว