เมื่อวันที่ 3 พ.ค. พ.ต.อ.รัชพล บุญนาค ผกก.สภ.เมืองไหม เปิดเผยความคืบหน้า จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทะเลาะวิวาทกับแม่ค้า หลังเข้าไปตักเตือนและแจ้งประกาศห้ามจำหน่ายสัตว์ทุกชนิด บริเวณหน้าวัดสองคร ริมแม่น้ำชี ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทางคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเบื้องต้นเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็ได้ติดตามทั้งสองฝ่าย เพื่อให้เข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในเบื้องต้น ว่าประสงค์จะดำเนินคดีในส่วนไหนบ้าง

นอกจากนี้ ยังได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อดูบาดแผล โดยเบื้องต้นทางฝ่ายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้รับบาดเจ็บที่ใบหู และที่หน้าผากเป็นแผล เนื่องจากถูกถังสเตนเลสฟาด และฝ่ายร้านค้าเป็นแผลฟกช้ำตามร่างกาย โดยขณะนี้รอสอบปากคำทั้งสองฝ่าย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่สามารถพูดคุยกันได้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดท่าสองคร บ้านท่าหิน หมู่ 10 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยพบว่าทางไวยาวัจกรวัด และคณะกรรมการวัด นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ มาติดที่บริเวณหน้าจุดทางขึ้นลงปล่อยปลาในลำน้ำพอง ซึ่งมีข้อความระบุว่า “ห้ามขายสัตว์ทุกชนิดในเขตอภัยทาน” ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ร้านขายปลาทะเลาะวิวาทกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่เข้าไปปลดป้ายของร้าน ที่ตั้งอยู่หน้าจุดไปปล่อยปลา

ขณะที่อุปกรณ์ของร้านขายปลายังตั้งอยู่ที่จุดเดิม ซึ่งเปิดเป็นร้านขายดอกไม้ทำบุญด้วย และมีประชาชนมาทำบุญที่วัดตามปกติ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่เคยขาย ก็ยังมาขายเหมือนเดิม

นายคำเลื่อน มูลลาภ ไวยาวัจกรวัดท่าสองคร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นงานศพวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวบ้านมาร่วมงานศพจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้ตนเองได้นำหนังสือจากเจ้าอาวาส เป็นมติที่ประชุมของเถรสมาคม ห้ามขายสัตว์ทุกชนิดในเขตวัด และความผิดตาม พ.ร.บ. ที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ ของกรมประมง ซึ่งเจ้าอาวาสเคยขอร้องให้ออกไปหลายครั้ง ทำให้ทางร้านขายปลาไม่พอใจ และเจ้าตัวมีพี่สาวเป็นผู้ใหญ่บ้านในช่วงนั้น ซึ่งมีปัญหากันมาก่อน

ร้านขายปลาก็ไม่ยอมให้ใครขายเหมือนกัน จนมีปากเสียงกับพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นบ่อยๆ และหาว่ากลั่นแกล้ง พอเปลี่ยนผู้ใหญ่บ้านใหม่ก็ได้มีการบังคับใช้ตามมติของสงฆ์ ห้ามขายในวัด และให้เวลาถึง 2 เดือน ย้ายไปขายที่อื่นที่ไม่ใช่เขตอภัยทาน แต่ก็มีการวางขายปลาที่หน้าวัด และตั้งจุดคืนถังที่บริเวณหน้าทางไปจุดปล่อยปลา โดยเปิดเป็นร้ายขายดอกไม้ไหว้พระด้วย ซึ่งก็ยังถือว่าขายในเขตอภัยทานเหมือนเดิม

“ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจึงเดินไปปลดป้ายออก เนื่องจากพูดคุยกันแล้ว ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ในคลิปดังกล่าวขึ้นมา โดยทางร้านขายปลาทั้งแม่ทั้งลูก ซึ่งเป็นผู้หญิง จับคุถังสเตนเลสฟาดใส่ผู้ช่วยจนบาดเจ็บ โดยที่ผู้ช่วยไม่ได้ทำร้ายตอบโต้เพราะเป็นผู้หญิง หากจะทำร้ายแม่ลูกคู่นี้ คงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งเรื่องราวไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตอะไร แต่ทางร้านขายปลาไม่ยอมทำตามที่เจ้าอาวาสร้องขอให้ย้ายออกไปขายในเขตที่ไม่ใช่เขตอภัยทาน หลังจากเกิดเรื่อง ก็จะต้องมีการพูดคุยร่วมกันทุกฝ่ายที่วัดอีกครั้ง เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวจบไป โดยยึดตามระเบียบกฎหมายที่มีประกาศชัดเจน และใช้ร่วมกันในวัดทั่วประเทศด้วย ซึ่งร้านขายปลาจะต้องไม่มีอยู่ในวัดหรือหน้าวัดเพราะเป็นเขตอภัยทานทั้งหมด แต่ประชาชนที่นำปลามาปล่อย ก็ยังปล่อยได้ตามปกติ” ไวยาวัจกรวัดท่าสองคร กล่าว

ด้านนางคำพอง จำปาบุรี อายุ 55 ปี แม่ค้าขายน้ำที่ขายอยู่ในวัด กล่าวว่า เหตุการณ์วันนั้นตนเองก็ขายตามปกติ เห็นผู้ช่วยฯ จะเดินไปบอกให้ร้านขายปลาห้ามขายในจุดนี้ เพราะเป็นเขตวัด ซึ่งมีการพูดคุยกันแล้ว และให้เวลาถึง 2 เดือน ย้ายออกไป อยู่ๆ ฝั่งร้านขายปลาก็จับถังสเตนเลสฟาดใส่ผู้ช่วยไม่ยั้งจนหัวแตก ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ส่วนตัวก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะทุกคนเป็นชาวบ้านบ้านเดียวกัน แต่ทั้งนี้ ทางวัดก็มีมติและคำสั่งว่าห้ามขาย แต่ที่ผ่านมา ร้านขายปลาก็ยังคงขายและมีปัญหาแบบนี้มานาน กระทั่งเกิดขึ้นล่าสุด หลังจากให้ร้านขายปลาย้ายออกไป แต่ก็ยังคงมาขายอยู่ แม้จะขายหน้าวัดก็มีค่าเท่าเดิม ซึ่งปัญหานี้จะจบได้คือทำตามกฎระเบียบ ก็จะอยู่ด้วยกันได้.