จากกรณี นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี แหม่มสาวนักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ชาวฝรั่งเศส ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แม่บ้านคนสนิทหลังทราบป่วยเป็นมะเร็ง เพราะเครียดจากโรคร้าย ภายหลังตำรวจยืนยันว่าจากการตรวจสอบและสอบสวนพยาน เชื่อว่านางแคทเทอร์รีนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ งามศรีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลเกาะสมุยได้ส่งร่างของผู้เสียชีวิตไปทำการผ่าตรวจชันสูตรที่ นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการรับเอกสารตรวจชันสูตรจากแพทย์ หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับเอกสารผลการตรวจชันสูตรศพก็จะได้สรุปสำนวนรวมถึงแจ้งความคืบหน้าทางคดีต่อสถานทูตฝรั่งเศส ตามขั้นตอนต่อไป ส่วนศพของนางแคทเทอร์รีน หลังตรวจชันสูตรแล้วจะได้ฝากศพเก็บไว้ที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อรอญาติหรือผู้เกี่ยวข้องมาติดต่อเกี่ยวกับการจัดการศพแต่ถึงขณะนึัยังไม่มีญาติมาติดต่อแต่อย่างใด

สำหรับเรื่องเกี่ยวกับพินัยกรรมของผู้ตาย พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพินัยกรรมแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อผู้เสียชีวิตได้มีการเขียนพินัยกรรมไว้ ก็จะต้องมีญาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย แต่ในกรณีของนางแคทเทอรีน คาดว่าน่าจะเป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ จะต้องเป็นผู้ไปฟ้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งไปยังผู้จัดการมรดกและดำเนินการมอบมรดกตามพินัยกรรม ซึ่งหากมีข้อโต้แย้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถดำเนินการได้โดยตรงไปยังศาล โดยไม่ต้องผ่านพนักงานสอบสวน ซึ่งในขณะนี้ ในส่วนของตำรวจเรายังไม่ได้รับการร้องขอใด ๆ เป็นพิเศษจากญาติญาติหรือหรือผู้เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อ นางณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม เพื่อสอบถามพูดคุยกรณีกรณีมีนักกฎหมายออกมาให้ความเห็นว่าการรับมอบมรดกของผู้เสียชีวิตอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากติดขัดในข้อกฎหมายหลายอย่าง ซึ่งปรากฏว่า “ป้าติ๋ม” ได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่าไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงใด ๆ อีกแล้ว หลังจากนี้ให้เป็นเรื่องของทนายความที่คุณแคทเทอร์รีนมอบหมาย และได้ตัดการสนทนาทันที.