เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี พร้อมพ่อแก่แม่เฒ่าตลอดจนลูกหลานต่างพากันมารวมตัวที่บริเวณหน้าวัดโป่งแรด หลังจากเสร็จงานสวนผลไม้และกิจประจำวันมาร่วมแรงร้องเพลงขอฝน ประกอบพิธีแห่นางแมวในการคืนชีพประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ ตามความเชื่อที่มีมาช้านาน เพื่อให้หวังว่าหลังจากทำพิธีแล้วฝนจะตกลงมาตามคำอ้อนวอนของชาวบ้าน

โดยมี นายโอภาส วงษ์เกษมศิริ ปราชญ์ชาวบ้าน ไวยาวัจกรวัดโป่งแรด นำสวดทำพิธี หลังจากในพื้นที่จันทบุรีมีสถานการณ์ภัยแล้งถึงขั้นรุนแรง โดยส่งผลกระทบต่อสวนผลไม้เป็นวงกว้าง บางแห่งขาดน้ำ ผลผลิตรอการเก็บเกี่ยวยืนต้นตายทั้งกลม ต้องหาเงินมาซื้อน้ำเพื่อพยุงต้นและผลผลิต ยืดอายุให้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ซึ่งพิธีขอฝนตามความเชื่อชาวบ้านสูงวัยตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ได้เคยอยู่ในพิธีแห่นางแมวขอฝนเมื่อหลายสิบปีก่อน และยังจำเนื้อร้องเพลงขอฝนได้อย่างแม่นยำ ถือว่าได้ฟื้นคืนชีพวัฒนธรรมความเชื่อเก่าแก่ที่หลับใหลอยู่ให้กลับตื่นขึ้นเหมือนย้อนกลับไปยังอดีต จึงเห็นพ้องกันว่าจะทำการแห่นางแมว 3 คืน ด้วยความคาดหวังจะมีฝนตกในเร็วๆ นี้ ขณะที่บรรยากาศตลอดสองฝั่งทางในชุมชนที่เป็นบ้านเรือน ร้านค้า ชาวบ้านต่างให้ความสำคัญ ร่วมประเพณีกันอย่างคึกคัก

นายสัญชัย วรรณรังสี ชาวบ้านพลับพลา บอกว่า แมวที่นำมาร่วมพิธีต้องเป็นแมวสีสวาท สีดำ ตัวเมีย แต่ปัจจุบันหลังบอกกล่าวเทวดาเสร็จจะตั้งขบวนแห่ไปในหมู่บ้าน จะมีการเปลี่ยนจากแมวจริงเป็นแมวเทียม หรือตุ๊กตาแมว เพื่อป้องกันอันตราย เนื่องจากขณะแห่ผ่านบ้าน เจ้าของบ้านหรือผู้อยู่อาศัยจะนำน้ำมาสาดรดแมวที่อยู่ในชะลอม และสาดผู้ร่วมขบวน ทั้งนี้การแห่นางแมวที่ต้องใช้แมวเป็นส่วนสำคัญ เพราะเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์ที่เกลียดฝน ชาวบ้านจึงถือเอาเคล็ดที่แมวร้องในเวลาฝนตกว่าจะเป็นเหตุให้ฝนตกจริงๆ ชาวบ้านจึงร่วมมือกันสาดน้ำและทำให้แมวร้องมากที่สุด