เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม หลังจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ถูก นายปรีชา (สงวนนามสกุล) แฟนหนุ่มอายุ 32 ปี ทำร้ายร่างกายโดยใช้น้ำกรดสาดใส่อาการสาหัส เกิดแผลพุพองตามใบหน้า ลำตัว โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. รับเรื่อง โดย น.ส.เอ กล่าวว่า คบกับแฟนหนุ่ม นายปรีชา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี คนก่อเหตุ ตั้งแต่คบกันไปอยู่บ้านหนุ่มพิการ แขนขาด ขาเดินกะโผลกกะเผลก แต่ถูกกระทำเหมือนเป็นคนรับใช้ ต้องคอยจัดหาอาหารให้ทานทุกมื้อ และเป็นเหมือนพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีหน้าที่ต้องดูแลเอาปัสสาวะในกระโถนไปเททิ้ง
แต่พอช่วงหลังรู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำทุกอย่างคนเดียว ประกอบกับฝ่ายชายไม่ยอมให้ตนไปไหนมาไหน จึงเริ่มอยากถอยห่างออกมา อยากเลิกคบ ไม่คิดว่าฝ่ายชายจะมาทำร้ายถึงขั้นแอบเอาน้ำกรดมาสาด โดยที่ตนเองไม่ทันตั้งตัว มารู้สึกตัวอีกก็มีอาการแสบตามเนื้อตัวแล้ว การที่ทำแบบนี้กับตนเองเหมือนอยากให้เสียโฉม ไม่อยากให้ตนเองเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใคร
ด้าน นางระเบียบ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี แม่ของสาว 18 ปี กล่าวว่า ทราบจากลูกสาวว่าได้ไปคบกับชายพิการ และมักให้น้ำกระท่อมลูกสาวดื่มกินตลอด จึงเชื่อว่าลูกสาวติดฝ่ายชายเพราะเหตุนี้ จนมาระยะหลังเริ่มมีปากเสียง ฝ่ายชายมีอาการหึงหวงโหด ไม่ยอมให้ลูกสาวไปไหนมาไหน กลัวจะนอกใจมีคนอื่น จนทำให้ลูกสาวรู้สึกอึดอัดทนไม่ไหวจนขอเลิกรา ออกมาจากบ้านฝ่ายชาย
โดยช่วงวันเกิดเหตุขณะที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่หน้าบ้าน มีตนเองและลูกอีก 2 คน อยู่ๆ นายปรีชาก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับถือแก้วน้ำมาด้วย โดยตนไม่ทันสังเกต พยายามจะมาขอคืนดีกับลูกสาวแต่ลูกสาวไม่อยากกลับไปคบอีกแล้ว จึงขอเลิกรา ทำให้นายปรีชาไม่พอใจ สาดน้ำกรดที่อยู่ในแก้วไปถูกทุกคนได้รับบาดเจ็บ ตามเนื้อตัวมีแผลพุพอง โดยเฉพาะลูกสาวถูกบริเวณคอทำให้พูดยังไม่ค่อยได้ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางครอบครัวชายพิการพยายามขอไกล่เกลี่ยไม่ให้ดำเนินคดี ให้เงินมา 1,500 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรม
ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า คดีนี้ได้โทรศัพท์สอบถาม สภ.วิเชียรบุรี ได้รับทราบว่าแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น กระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-200,000 บาท ตนอยากจะบอกกับคุณแม่และคุณกัน ว่าสบายใจได้ พนักงานสอบสวนทำคดีตรงไปตรงมา และอยากจะฝากเตือนว่าเมื่อไม่รักกันแล้วก็อย่าทำร้ายโดยการสาดน้ำกรด และให้นึกถึงผู้หญิงว่าจะอยู่ยังไงต่อไป ขณะที่เจ้าตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในส่วนการเยียวยา พนักงานสอบสวนจะเป็นตัวกลางในการพูดคุย ส่วนเรื่องความปลอดภัยเดี๋ยวจะให้เจ้าหน้าที่สายตรวจแวะเวียนไปเข้าไปดู
ขณะที่ นายปรีชา คนก่อเหตุ เผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้ว่า เรื่องที่ตนเองนำน้ำกรดไปสาดแฟนสาวตามที่เป็นข่าวไม่เป็นความจริง แต่เป็นเพียงโซดาไฟเท่านั้น ทั้งนี้ทางฝ่ายหญิงให้ข่าวไม่ตรงกับความจริงทั้งหมด คบหาไม่ใช่แค่ 2 เดือน แต่อยู่ด้วยกันมา 5 เดือนแล้ว ไม่เคยใช้แฟนสาวอย่างคนใช้หรือทาส ส่วนปมเหตุเกิดจากฝ่ายหญิงไปมีแฟนคนใหม่ แล้วขี่มอเตอร์ไซค์มาเย้ยตน ถึงตนจะพิการแต่ก็มีศักดิ์ศรี จึงบันดาลโทสะเอาโซดาไฟไปสาดฝ่ายหญิง.
