ที่ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนด้า แกรนด์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายแก้หนี้ประชาชน ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีกำหนดการรับมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินของรัฐบาล โดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกํากับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยมาร่วมประชุมด้วย และมีการถอดบทเรียนการจัด “มหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด โดยเชิญผู้อำนวยการยุติธรรมจังหวัดยะลา, สุราษฎร์ธานี, เชียงใหม่, ขอนแก่น, และชลบุรี รวมถึงการระดมความคิดเห็นทบทวนแผนการจัด “มหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพด้วย โดยมีการจัดประชุมต่อเนื่องถึงวันพรุ่งนี้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะได้ความรับข้อมูล ความรู้ มาชี้แจงและร่วมหาทางออก โดยมี นายกิตติรัตน์ ซึ่งเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.พาณิชย์, รมว.คลัง และอดีตกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อพูดถึงเรื่องภาคการเงินแล้ว มีประสบการณ์มากมายและกว้างขวาง
ขณะที่กระทรวงยุติธรรม ที่มีบทบาทให้ความเป็นธรรม ทั้งในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทางแพ่ง การบริหารงาน ทางการปกครอง ที่สำคัญ กระทรวงยุติธรรมต้องให้ความเป็นธรรมเข้าถึงประชาชน ไม่ใช่ประชาชนต้องเข้าหาความยุติธรรม แต่ต้องให้ความเป็นธรรมเข้าถึงประชาชนโดยเสมอหน้าทุกคน ซึ่งปัญหา 4 เรื่อง ที่จะมอบให้แก่ยุติธรรมจังหวัดที่จะขับเคลื่อนงานควิกวิน (Quick Win) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ได้แก่
เรื่องแรก การแก้ปัญหายาเสพติด ที่จะต้องนำคนที่ติดยาเสพติดจนคุณภาพชีวิตด้อยลง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เรื่องที่ 2 การแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งเป็นหัวข้อการประชุมวันนี้ เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องการเอาชนะผู้มีอิทธิพล ผู้ให้การค้ำยัน สนับสนุนที่รวมถึงข้าราชการ ที่มักก่ออาชญากรรมพิเศษซึ่งต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และเรื่องสุดท้าย คือการเอาชนะความยากจน ที่ไม่ใช่แค่หนี้สินเพราะความยากจนอาจเกิดจากความเหลื่อมล้ำ ความไม่ยุติธรรม เช่น กว่า 80% ของผู้ต้องราชทัณฑ์มีการศึกษาต่ำกว่าขั้นพื้นฐาน ไม่มีความรู้ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ จนต้องไปกระทำความผิด ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ
“การไกล่เกลี่ย ไม่ใช่มหกรรมความจำยอมให้ลูกหนี้เข้าสู่วังวนเป็นหนี้ไม่รู้จักจบสิ้น และไม่ใช่แค่เจ้าหนี้ได้ประโยชน์ แต่ลูกหนี้ซึ่งเป็นประชาชนต้องเป็นได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกท่านจะได้รับการชี้ทางออกจากปัญหา” รมว.ยุติธรรม กล่าว