กรณีนางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี แหม่มสาวนักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แม่บ้านคนสนิท มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท จนทำให้เป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศ

ขณะเดียวกันปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ได้สร้างความกังขาให้กับสังคมเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่าชาวต่างชาติสามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่ ซึ่งต่อมานายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย  จ.สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกี่ยวกับความถูกต้องในการถือครองทรัพย์สิน รวมถึงการดำเนินกิจการธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพื่อถือครองทรัพย์สินโดยเฉพาะที่ดินในประเทศไทย

รวมถึงให้มีการตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าของชาวต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ล่าสุด พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 เข้าตรวจสืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่ห้องรับรอง ท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย  จ.สุราษฎร์ธานี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4  พร้อมด้วย พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และรายงานการสืบสวนข้อมูล กรณีการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติในนามนิติบุคคลในพื้นที่เกาะสมุย

โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย พ.อ.ดุสิต เกสรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4, นายจรัญ รื่นพาณิช หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สฎ.16 ตัวแทนฝ่ายปกครอง อ.เกาะสมุย ตัวแทนเทศบาลนครเกาะสมุย และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรับฟังรายงาน ทั้งนี้ พล.ท.ศานติ ได้ใช้เวลาประชุมนานร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนจะพร้อมด้วย พ.อ.ดุสิต เจ้าหน้าที่ป่าไม้  ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นทึ่เป้าหมาย 7 จุด

ภายหลัง พล.ท.ศานติ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐของกองทัพภาคที่ 4 ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 โดยการทำงานของชุดตรวจสอบฯ กอ.รมน.ภาค 4 ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดไปแล้วหลายคดี ที่ผ่านมาเรายังทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้มีพื้นที่เป้าหมายที่เราต้องตรวจสอบจำนวน 6 จุด ที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของชุดสอบสวน กอ.รมน. ซึ่งการทำงานของชุดตรวจสอบฯ มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าอีกไม่นานเราจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย แนวทางการทำงานนั้นเราจะมาพิจารณากันอีกทีว่า สำนวนการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานจะส่งให้หน่วยงานใดเป็นผู้ดำเนินการคือ 1) สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยกองบัญชาการสอบสวนกลาง 2) กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ 3) เราดำเนินคดีด้วยตนเองในนาม กอ.รมน.

“ส่วนกรณีการตรวจสอบ การครอบครองธุรกิจวิลล่าให้เช่าและวิลล่าส่วนตัว รวมถึงที่ดินของนางแคทเทอร์รีน ซึ่งปรากฏข่าวล่าสุดในการตรวจสอบ เบื้องต้นพบความผิดปกติทั้งในเรื่องของการใช้นอมินี ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล นอกจากนั้นยังพบว่าบริษัทนิติบุคคล ของนางแคทเทอร์รีนยังมีการถือครองที่ดินอีกหลายแปลง ซึ่งชุดตรวจสอบกำลังตรวจสอบที่มาของที่ดินว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ โดยให้มีการตรวจสอบย้อนหลัง ไปจนถึงต้นตอที่มาของเอกสารสิทธิเหล่านั้น” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

พล.ท.ศานติ กล่าวด้วยว่า ปัญหาการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติเป็นจุดเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจให้เช่าวิลล่า จนไปถึงการซื้อขายวิลล่า ซึ่งในการทำงานตรวจสอบพบว่าในขณะนี้พื้นที่เกาะสมุยมีชาวรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน จำนวนมากเข้ามาประกอบธุรกิจให้เช่าวิลล่ารวมถึงการซื้อขาย เมื่อมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในประเทศเหล่านั้นเข้ามา ก็นิยมที่จะเข้าไปใช้บริการในธุรกิจของชาติเดียวกัน นักท่องเที่ยวเหล่านี้เข้ามาใช้ทรัพยากรของเรา แต่ผลประโยชน์ที่ได้กลับไปตกกับชาวต่างชาติ เมื่อเขาทำธุรกิจก็นำเงินกลับไป ตรงนี้นอกจากเราต้องสูญเสียทรัพยากรทางธรรมชาติแล้ว ยังสูญเสียโอกาสในการทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่อีกด้วย แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะทำงานตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และดำเนินคดีผู้กระทำผิดแต่ก็ยังพบว่ายังมีผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย

พล.ท.ศานติ กล่าวว่า ตนจึงได้สั่งการไปยังคณะทำงานตรวจสอบฯ ให้สืบสวนและรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนให้การช่วยเหลือชาวต่างชาติในการครอบครองที่ดินบนเกาะสมุย รวมถึงรายชื่อผู้ที่เป็นนอมินีให้กับต่างชาติเพื่อขึ้นบัญชีและติดตามพฤติกรรม รวมถึงให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินของนักธุรกิจชาวต่างชาติทุกแปลง

ข่าวรายงานว่า เส้นทางการบินเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายจำนวน 6 จุด ซึ่งชุดทำงานตรวจสอบฯ กอ.รมน.ภาค 4 ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ พบความผิดปกติทั้งในเรื่องของการออกเอกสารสิทธิ ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยทั้งหมดพบว่าเป็นพื้นที่ครอบครองของชาวต่างชาติทั้งหมด และดำเนินการกิจกรรมในนามบริษัทนิติบุคคลและหนึ่งในนั้นถูกระบุว่าเป็นบ้านพักของนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก