จากกรณีตำรวจไซเบอร์สนธิกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เปิดปฎิบัติการ ตามยุทธการ Takedown Scammer Ep:2 ปูพรมค้น 7 จุดในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช บุกค้นบ้านนางเรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี และเครือข่าย หลังสืบพบว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ซึงเป็นลูกน้องของนางเรวดี ขณะที่นางเรวดี ได้เผ่นหนีพร้อมสามีและลูกสาว ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท กล่าวว่า พนักงานสอบสวนบก.สอท.5 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดทุ่งสง เพื่อขอหมายจับนางเรวดี ทีปไพบูลย์ รองนายกเทศมนตรีจันดี หลังพบว่ามีพฤติการณ์ในการหลบหนีไม่มาพบตามหมายเรียก เบื้องต้นศาลได้พิเคราะห์เห็นควรออกหมายจับนางเรวดี ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจรและร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงเลขที่ 170/2567 ลงวันที่ 14 พ.ค.
ในส่วนของการติดตามตัวนางเรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี นายหลิน ดันหยาง อายุ 62 ปีสามีของเจ๊เล็ก ,น.ส.อาทิตยา ทีปไพบูลย์ อายุ 23 ปี ลูกสาวของเจ๊เล็ก และน.ส.ดุษดี แสงแก้ว อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาทั้งสี่รายที่ยังคงหลบหนีการจับกุม ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงเฝ้าติดตาม และคุมเข้มสกัดจับตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยมีรายงานว่าจากการกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นทางทนายความของนางเรวดี ได้ประสานมายังพนักงานสอบสวนเพื่อนัดหมายนำตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คนมามอบตัวตามข้อกล่าวหา ที่สภ.ทุ่งสง ในวันอังคารที่ 21 พ.ค.เวลา 10.00น.
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนจะทำการคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐาน