ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนติดตามอย่างต่อเนื่อง กับข่าวดังเคสชาวบ้านแห่ไปวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยปราบ “ลุงหัวดื้อ” ที่จิตใจดีมีเมตตา ให้อาหารนกพิราบกว่า 200 ตัว ในทาวน์เฮาส์ย่านนนทบุรี ทำให้ชาวบ้านละแวกนั้นได้รับความเดือดร้อน ทั้งกลิ่นและขี้นก แม้เพื่อนบ้านหลายคนจะไปเตือนแล้ว ก็ไม่สามารถหาทางออกที่ดีร่วมกันได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ออกมาโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยเงียบ ที่สามารถส่งผลร้ายต่อสุขภาพ ได้ เขียนข้อความระบุ “จากข่าวหมู่บ้านที่มีคนให้อาหารนกพิราบ จนมีขี้นกมากมายในหมู่บ้าน ในขี้นกพิราบ จะมีเชื้อราชื่อ Cryptococcus neoformans ซึ่งตัวนี้คนติดเชื้อได้ โดยเฉพาะในคนที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต่ำ มีโรคเรื้อรัง”
“เมื่อคนสูดอากาศที่มีขี้นกปนเปื้อนเข้าไป ก็จะติดเชื้อพวกนี้ได้ อาการคือ มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ไข้ ไอ เจ็บหน้าอก ไอเป็นเลือด และอาจลุกลามกลายเป็น ติดเชื้อในกระแสเลือด แล้วก็ตายได้ครับ”
“ดังนั้นเรื่องนี้สำคัญมาก จนท.รัฐต้องไปห้ามไม่ให้ลุงแกให้อาหารนกพิราบ เพราะผิดกฎหมายว่าด้วยความสะอาดและทำให้คนในหมู่บ้านตุยเย่ได้ครับ”
สำหรับโรคดังกล่าว คือ โรคเชื้อรามูลนก พบได้จากมูลนกพิราบ มูลนกหงส์หยก มูลนกเขา นกแก้ว และมูลไก่ เป็นเชื้อที่สามารถเจริญได้ในธรรมชาติ ชอบความชื้น และทนความร้อนได้ถึง 40 องศาเซลเซียส ก่อโรค Cryptococcosis มีอาการทางผิวหนังและระบบหายใจ มักทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ซึ่งสามารถเป็นได้จากการหายใจเอาดินที่มีเชื้อเข้าไป และสัมผัสอุจจาระนกที่มีเชื้อราปนเปื้อนอยู่
อาการในคน เป็นอย่างไร?
มีอาการได้ทั้งทางผิวหนัง และทางเดินหายใจ
1. อาการทางผิวหนังมักพบบริเวณลำคอและใบหน้า จะเป็นตุ่มแดง กดแล้วเจ็บ ซึ่งต่อมา กลายเป็นหนองแล้วแตกออกคล้ายฝี แผ่นปื้นสีแดง ขนาด 2 ซม.ขึ้นไป
2. หากติดเชื้อทางเดินหายใจจะมีไข้ ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก มีปัญหาด้านการมองเห็น หากรุนแรงมากอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือดได้ ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : Drama-addict, มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสัตวแพทยศาสตร์, researchgate
