จากเหตุการณ์ เที่ยวบิน SQ321 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เส้นทางลอนดอน-สิงคโปร์ ทำการบินด้วยโบอิ้ง 777-300ER มีการส่งสัญญาณ “squawk code 7700” ต้องทำการเปลี่ยนเส้นทางฉุกเฉินมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 30 คน และเสียชีวิต 1 คน นั้น

ผอ.สนามบินสุวรรณภูมิ คาด ‘สิงคโปร์แอร์ไลน์’ ตกหลุมอากาศในน่านฟ้าไทย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวไล่เรียงไทม์ไลน์ การเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไล่เรียงจากการที่ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) ออกมาแถลงชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีเครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ321 เส้นทางบินจากประเทศอังกฤษ ปลายทางประเทศสิงคโปร์ เกิดประสบเหตุตกหลุมอากาศระหว่างการเดินทาง ในวันที่ 21 พ.ค. 67

โดยพบว่าในเวลา 15.35 น. วันที่ 21 พ.ค. 67 ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้ง จากหอบังคับการบินว่า สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ อังกฤษ ปลายทางท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เนื่องจากมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศ 

เวลา 15.51 น. วันเดียวกัน เที่ยวบินดังกล่าวได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้ส่งทีมแพทย์เข้าพื้นที่โดยทันที เพื่อประเมินอาการและให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิต จึงขออนุมัติตนเพื่อเข้าแผนฉุกเฉิน หลังประกาศเป็นแผนฉุกเฉิน ซึ่งทางสุวรรณภูมิมีแพทย์ฉุกเฉินรองรับ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็เข้าประจำพื้นที่ หลังเครื่องบินลงจอด และประสานกับนักบิน โดยตกลงกันว่าจะยกผู้โดยสารทันที โดยใช้รถของเจ้าหน้าที่การบินที่ปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินเข้าเทียบรอ และเข้าช่วยเหลือผู้โดยสาร

เวลา 16.00 น. ลำเลียงผู้โดยสารที่บาดเจ็บวิกฤติ 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 23 ราย ลูกเรือบาดเจ็บปานกลาง 9 ราย ผู้ป่วยบาดเจ็บเล็กน้อย 30 ราย แบ่งเป็นนำส่งโรงพยาบาล 16 ราย รักษาที่ Holding area 14 ราย รวมผู้บาดเจ็บ 69 ราย

เวลา 19.30 น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) ออกมาแถลงชี้แจงต่อสื่อมวลชน

เวลา 21.00 น. สำนักงานการบินพลเรือน เข้าพื้นที่เพื่อสอบสวนหาสาเหตุ

เวลา 21.45 น. สิงคโปร์แอร์ไลน์ ส่งเครื่องบินเดินทางมารับผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนเดินทางไปต่อยังสิงคโปร์

ทั้งนี้ เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสารจำนวน 211 คน และลูกเรือจำนวน 18 คน เบื้องต้นรับทราบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวต่างชาติ สัญชาติอังกฤษ 1 คน อายุ 73 ปี น่าจะเสียชีวิตจากโรคหัวใจ

เที่ยวบินนี้ เบื้องต้นรับทราบสัญชาติของผู้โดยสาร 56 คน จากออสเตรเลีย, 2 คน จากแคนาดา, 1 คน จากเยอรมนี, 3 คน จากอินเดีย, 2 คน จากอินโดนีเซีย, 1 คน จากไอซ์แลนด์, 4 คน จากไอร์แลนด์, 1 คน จากอิสราเอล, 16 คน จากมาเลเซีย, 2 คน จากเมียนมา, 23 คน จากนิวซีแลนด์, 5 คน จากฟิลิปปินส์, 41 คน จากสิงคโปร์, 1 คน จากเกาหลีใต้, 2 คน จากสเปน, 47 คน จากสหราชอาณาจักร และ 4 คน จากสหรัฐอเมริกา