เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ว่า เมื่ออัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในข้อหากระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยไม่เลื่อนการมีคำสั่งออกไป ตามคำร้องของทนายความที่อ้างว่านายทักษิณป่วยติดเชื้อโควิดนั้น เป็นการสื่อให้เห็นว่า ดีลลับทางการเมืองมีปัญหา ดีลกันไม่ลงตัว ระหว่างนายทักษิณกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งนับจากนี้ไปนายทักษิณก็ตกเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 อย่างสมบูรณ์แบบ การที่สำนักงานอัยการสูงสุดนัดนายทักษิณในวันที่ 18 มิ.ย.2567 เพื่อนำตัวไปส่งฟ้องต่อศาลนั้น ถือว่านายทักษิณกระทำความผิดคดีใหม่ ผิดเงื่อนไขการพักโทษของกรมราชทัณฑ์และกรมคุมประพฤติ ซึ่งในทางปฏิบัติ นักโทษคนใดที่อยู่ระหว่างการพักโทษ เมื่อไปก่อความผิดซ้ำหรือกระทำความผิดใหม่ จะต้องนำตัวเข้าสู่เรือนจำทันที โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้ กรณีของนายทักษิณซึ่งเป็นนักโทษที่อยู่ในระหว่างการพักโทษ และได้มีความผิดใหม่เป็นการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว กรมคุมประพฤติจะต้องส่งตัวกลับให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อนำนายทักษิณซึ่งเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษ แต่มีความผิดใหม่อีก กลับสู่เรือนจำตามแนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์และกรมคุมประพฤติ
“ผมมีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ เห็นเพื่อนนักโทษหลายคนที่อยู่ระหว่างการพักโทษได้กระทำความผิดซ้ำ เช่น เสพยาเสพติด ถูกจับเมาแล้วขับ หรือไปทะเลาะวิวาท ก็จะถูกถอนการพักโทษนำตัวเข้าสู่เรือนจำทันที ส่วนกรณีของนายทักษิณ จะต้องจับตาดูว่า มีการอ้างสิทธิ์ความเป็นนักโทษเทวดา โดยไม่ต้องเข้าเรือนจำอีกหรือไม่ และจะมีการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานเหมือนกับเคยที่ปฏิบัติมาหรือไม่”นายเทพไท ระบุ