สาเหตุของแผลติดเชื้อ บวมแดง
แผลติดเชื้อ บวมแดงเกิดจากการที่เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา เข้าไปในแผล ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
- การดูแลแผลไม่สะอาด เช่น ล้างแผลไม่ถูกวิธี ไม่ปิดแผล หรือใช้ผ้าปิดแผลที่ไม่สะอาด
- แผลมีสิ่งสกปรกเข้าไป เช่น ฝุ่น ทราย หรือเศษดิน
- โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น
- แผลเกิดจากการกัดหรือต่อยของสัตว์ โดยสัตว์บางชนิดมีเชื้อโรคในน้ำลายที่สามารถทำให้แผลติดเชื้อได้
ส่องสัญญาณอาการแผลติดเชื้อ
ลองมาดูว่าอาการแบบใดที่ส่งสัญญาณว่าแผลติดเชื้อ บวมแดงแล้ว
- แผลมีสีแดง บวม ร้อน และเจ็บปวด
- มีหนองไหลออกจากแผล
- มีกลิ่นเหม็น
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- มีไข้
วิธีการรักษาแผลติดเชื้อ บวมแดง
- การทำความสะอาดแผล : ล้างแผลบริเวณที่อักเสบด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด เช้า-เย็น เช็ดแผลให้แห้ง จากนั้นทายา และปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาดหรืออาจไม่ปิดก็ได้
- การใช้ยา : ทายาที่มีสรรพคุณฆ่าเชื้อและสมานผิวได้ บริเวณที่เป็นแผลวันละครั้งหรือหลายครั้ง จนกระทั่งแผลหาย
- การกินยา : รับประทานยาปฏิชีวนะตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
- การประคบแผล : ประคบแผลด้วยน้ำเย็นเพื่อลดอาการบวม
- การยกแผล : ยกแผลให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดอาการบวม
- การไปพบแพทย์ : ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเป็นแผลติดเชื้อ บวมแดง
- ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังทำแผลทุกครั้ง
- ไม่แคะ แกะ เกา แผล
- เปลี่ยนผ้าปิดแผลทุกวัน
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
ข้อควรระวังเมื่อเป็นแผลติดเชื้อ บวมแดง
- ห้ามทายาที่มีสเตียรอยด์ลงบนแผล
- ห้ามทายาในรายที่แพ้ยาหรือส่วนประกอบตัวใดตัวหนึ่งของยา
- ห้ามทายาในกรณีที่บาดแผลรุนแรง แผลลึก หรือแผลที่ติดเชื้อมาก ต้องดูแลรักษาโดยแพทย์
- ห้ามใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามแช่แผลในน้ำ
- หากมีอาการแผลติดเชื้อรุนแรง เช่น มีไข้สูง หนองไหลมาก หรือแผลลุกลาม ควรไปพบแพทย์ทันที
จะเห็นได้ว่าแผลติดเชื้อ บวมแดง เป็นภาวะที่พบได้บ่อย แต่สามารถรักษาให้หายได้โดยการดูแลแผลให้สะอาด ทายาฆ่าเชื้อและสมานผิว ตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีอาการแผลติดเชื้อรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันที
