จากกรณีมีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รายละเอียดพร้อมภาพถ่ายเด็กชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง อายุประมาณ 10 ปี นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ตามแขนและขาทั้งสองข้าง มีผ้าพันแผลเป็นแนวยาวระบุข้อความว่า “…ทางสื่อรัสเซียประโคมข่าวเรื่องสองแม่ลูกชาวต่างชาติ อาศัยอยู่ในประเทศไทย ไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แล้วลูกชายเกิดพลัดตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนร่างกายถูกน้ำลวกไปถึง 90% ต้องปั๊มเครื่องหายใจให้กลับมา พอเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความขอให้ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยว ว่าควรมีป้ายติดเตือนหรือควรมีที่กั้นหากเป็นบ่อใหญ่และอันตราย แต่ไปร้องทุกข์ถึง 3 รอบ ตำรวจไทยกับเซย์โน ไม่รับแจ้งเหตุจนผู้เป็นแม่ต้องไปร้องสื่อรัสเซียให้ช่วย ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. จากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว มีรายงานแจ้งว่า ช่วงวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเป็นพ่อแม่ลูกชาวรัสเซียเดินทางจากพัทยา จ.ชลบุรี มาที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. กระทั่งเกิดเหตุลูกชายพลัดตก “บ่อน้ำพุร้อน ธาราดล” หรือ “บ่อน้ำพุร้อนเหมืองแร่” ตั้งอยู่หย่อมบ้านแหมืองแร่ เขตพื้นที่บ้านสบสา หมู่ 4 ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยน้ำพุร้อนดังกล่าว ตั้งอยู่ริมถนนหลวงหมายเลข 1265 เส้นทางระหว่าง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กับ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ บริเวณหลัก กม.ที่ 26 ห่างจากตัว อ.ปาย ประมาณประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากผิวดิน ความสูงประมาณ 1.50 เมตร มีอุณภูมิความร้อนสูง 94 องศาเซลเซียส

ด้านติดริมถนนทางหลวงของบ่อน้ำพุร้อนมีรั้วกั้น แต่ด้านในปล่อยโล่งและมีป้ายเตือนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และรูปภาพประกอบระบุข้อความ “เป็นพื้นที่อันตรายห้ามลงเล่น” ซึ่งปัจจุบันสถานที่บ่อน้ำพุร้อนเหมืองแร่ เป็นสถานที่พักรถและเป็นจุดชมวิว ภูเขา ป่าไม้ ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติไว้เป็นอย่างดี สำหรับจุดที่เกิดน้ำพุร้อนนี้ เดิมเป็นหลุมขุดเจาะสำรวจเพื่อหาแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังความร้อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเมื่อราวปี พ.ศ. 2536

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งได้รับการยืนยันว่า ไม่ได้มีการมาแจ้งความ หรือ ลงบันทึกประจำวันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สภ.ปาย แต่อย่างใด แต่มาทราบภายว่าหลังเกิดเหตุ มีรถยนต์ชาวบ้านมาส่งผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลปาย แต่ทางโรงพยาบาลมีการส่งผู้ป่วยรีเฟอร์ต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ จ.เชียงใหม่ ในวันเดียวกันเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวท่องเที่ยว 2 พ.ต.ท.มังกร แสนเมืองมา สารวัตรท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อม น.ส.วัชราพร สุทธิสมบัติ เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาพบครอบครัวของเด็กผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยทางตำรวจท่องเที่ยวจะเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุว่าเป็นจุดที่ภาคเอกชน หรือ ภาครัฐดูแลรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความแน่ชัดก่อน อย่างไรก็ดีระหว่างที่เด็กผู้บาดเจ็บกำลังพักรักษาตัวอยู่นี้ ทางตำรวจท่องเที่ยวจะช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้ทางครอบครัวนักท่องเที่ยวต่อไป.