เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.นำโชค ดวงสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ในซอยพิชัยฯ 19 ตรงข้าม ม.พัน 11 รอ. ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายปรีชา รอง ผกก.สส. ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สระบุรี แพทย์เวร รพ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี

ที่เกิดเหตุในซอยดังกล่าว พบศพ นายสมเพ็ญ ปุณณรัตนกุล อายุ 58 ปี หรือเสี่ยเปี๊ยก ชาว จ.สระบุรี สภาพนอนตัวงอห่อเข่าตะแคงซ้ายจมกองเลือดอยู่บนถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม.เข้าที่หน้าอกซ้าย อกขวา ไหปลาร้าขวา ท้อง แขนซ้าย และขาทั้ง 2 ข้าง ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่รวม 14 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบสวนหลานสาวผู้ตาย เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเคยทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สระบุรี แล้วลาออกก่อนเกษียณอายุ มาประกอบธุรกิจรับฝากขาย จำนองบ้าน ที่ดิน รวมถึงปล่อยเงินกู้ มีฐานะค่อนข้างมั่นคง มีเงินฝากสหกรณ์ครูนับสิบล้านบาท มีครอบครัวแล้ว ภรรยาเสียชีวิต และมีภรรยาใหม่ รักการเล่นกีฬาบาสเกตบอล ไปเล่นกับเพื่อนๆที่ศาลาประชาคมพุทธสมาคมสว่างรัตนตรัยธรรมสถานเป็นประจำ

ก่อนเกิดเหตุหลังกลับจากเล่นบาสฯ ผู้ตายได้ออกมาเดินพักผ่อนย่อยอาหารหลังกินมื้อเย็น บริเวณถนนในซอยห่างบ้านพักประมาณ 50 เมตร ซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว และมืด ซึ่งผู้ตายไม่ได้ระแวงอะไร เพราะเดินออกกำลังกายเป็นประจำ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด เพียงครู่เดียวก็มีคนมาเขย่าประตูเรียกหลานสาวตะโกนบอกว่า นายสมเพ็ญ ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนสาเหตุหลานสาวผู้ตายไม่ทราบแน่ชัด เพราะผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่ดื่มสุรา รักสุขภาพ เรื่องชู้สาวก็ไม่เห็นมีรักใคร่กับภรรยาดี ส่วนภรรยาเดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังญาติโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อป่วย จะมีก็เพียงแต่เรื่องที่ผู้ตายเป็นคนพูดจาเสียงดัง

พ.ต.อ.เชษฐชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการฆ่ากันได้ สันนิษฐานไว้กว้างๆว่า น่าจะมาจากธุรกิจที่ผู้ตายทำ ทั้งปล่อยเงินกู้ รับขายฝาก จำนำ จำนองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจมีลูกหนี้รายใดรายหนึ่งไม่พอใจ เพราะดูจากลักษณะการลงมือ เชื่อว่าคนร้ายมีความแค้นเป็นอย่างมากกระหน่ำยิงอย่างไม่ยั้ง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้งไป อยู่ระหว่างสอบสวนลงพื้นที่หาข่าว พยานหลังฐาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี.