ชายหนุ่มจากไอร์แลนด์เหนือได้รับการตัดสินโทษจากศาลให้จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากมีความผิดจริงตามข้อหาหลายกระทง รวมถึงข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา หลังจากที่เขาใช้เว็บไซต์โซเชียลมีเดียเพื่อแบล็กเมล์และล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์อย่างน้อย 70 รายจากหลายประเทศ
กลุ่มอัยการผู้ช่วย (Public Prosecution Service : PPS) ของไอร์แลนด์เหนือ ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ผู้พิพากษาประจำศาลสูงแห่งเบสฟาสต์ได้ตัดสินให้ อเล็กซานเดอร์ แมคคาร์ทนีย์ จำเลยวัย 26 ปี ซึ่งมีความผิดจริงตามข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แบล็กเมล์ และฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา โดยมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ขวบซึ่งกระทำอัตวินิบาตกรรมในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2561 หลังจากโดนแมคคาร์ทนีย์ “ล่อลวง” (Catfishing) ผ่านช่องทางออนไลน์
การแอบอ้างหรือปลอมตัวตนเพื่อล่อลวงเหยื่อผ่านช่องทางออนไลน์ (Catfishing) เป็นวิธีการที่มิจฉาชีพหรือคนร้ายมักจะใช้หลอกลวงเหยื่อผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยใช้ภาพและข้อมูลเท็จเพื่อสร้างตัวตนปลอมขึ้นมา จากนั้นก็ใช้ตัวตนออนไลน์นี้ติดต่อกับเหยื่อเพื่อกระทำการผิดกฎหมาย เช่น ตามรังควานข่มขู่, หลอกลวงทรัพย์สิน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า แม็คคาร์ทนีย์ปลอมตัวเป็นเด็กสาวเข้ามาผูกมิตรกับเหยื่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และหลอกล่อให้เหยื่อส่งภาพเปลือยของตัวเองมาให้ จากนั้นเหยื่อเหล่านี้ก็โดนข่มขู่ให้ส่งภาพและวิดีโออนาจารของตัวเองให้เขา บังคับให้พวกเขาร่วมทำพฤติกรรมทางเพศที่เสื่อมทรามและบางครั้งเป็นอันตราย
แคทเธอรีน คีแรนส์ รักษาการหัวหน้าหน่วยอาชญากรรมร้ายแรง PPS กล่าวว่า แมคคาร์ทนีย์ ซึ่งจงใจเลือกเหยื่อในกลุ่มเด็กสาวราว 3,500 คนจากไอร์แลนด์เหนือ ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์
“เหยื่อของแมคคาร์ทนีย์ทั้งหมดเป็นเด็กไร้เดียงสา” คีแรนส์ชี้ว่าเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดคือ 10 ขวบและเด็ก ๆ เหล่านี้กำลังอยู่ในวัยที่ “กำลังดิ้นรนกับปัญหาเรื่องตัวตนและภาพลักษณ์ทางกาย และพยายามขอความช่วยเหลือบนโซเชียลมีเดีย”
แมคคาร์ทนีย์รับสารภาพผิดต่อข้อกล่าวหาทั้งหมด 185 กระทง ซึ่งมีทั้งข้อหาข่มขู่ แบล็กเมล์ ยุยงหลอกล่อผู้เยาว์ให้ทำกิจกรรมทางเพศ โดยข้อหาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหยื่อ 70 ราย เขาต้องรับโทษจำคุกขั้นต่ำ 20 ปีจึงจะมีสิทธิขอให้พิจารณาทัณฑ์บนได้
คีแรนส์กล่าวว่า เรื่องที่น่าเศร้าก็คือเหยื่อวัยรุ่นหญิงอายุเพียง 12 ขวบของเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนระหว่างการโต้ตอบพูดคุยผ่านช่องทางออนไลน์ เด็กหญิงคนนี้เป็นชาวอเมริกัน ไม่เคยพบและไม่เคยรู้จักแมคคาร์ทนีย์เป็นการส่วนตัว เธอโดนหลอกลวงให้ส่งภาพอนาจารให้เขา จากนั้น แมคคาร์ทนีย์ก็ข่มขู่และบังคับให้เธอร่วมทำกิจกรรมทางเพศตามคำสั่งของเขาและต้องทำให้เขาดูผ่านกล้องออนไลน์ เช่น ร่วมเพศกับน้องตัวเองหรือสัตว์เลี้ยงในบ้านและกิจกรรมทางเพศแบบวิตถารอื่น ๆ เมื่อเธอปฏิเสธ เขาก็ข่มขู่ว่าจะส่งคนไปข่มขืนเธอ
ครั้งสุดท้ายที่เด็กหญิงยืนกรานปฏิเสธ ไม่ยอมส่งรูปภาพอนาจารให้เขาอีกต่อไป แมคคาร์ทนีย์ก็ยังคงข่มขู่เธอต่อ จนกระทั่งเธอตัดสินใจยิงตัวตายโดยมีข้อความสุดท้ายที่แมคคาร์ทนีย์ส่งไปหาเด็กหญิงว่า “ลาก่อนและขอให้โชคดี”
น้องสาวของเด็กหญิงเป็นผู้พบร่างของเธอในห้องนอนหลังจากได้ยินเสียงปืน เด็กหญิงยังไม่เสียชีวิตในทันที เธอได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของเธอไว้ได้
พ่อของเด็กหญิงไม่ยอมให้อภัยตัวเองที่หละหลวม ทิ้งปืนพกไว้ในที่ที่เด็กหญิงสามารถหยิบไปใช้ได้ เขาฆ่าตัวตายตามลูกสาวในอีก 18 เดือนให้หลัง
ครอบครัวของเด็กหญิงไม่รู้สาเหตุที่เธอยิงตัวตายจนกระทั่งอีก 3 ปีหลังจากที่เธอเสียชีวิต เมื่อตำรวจพบประวัติการสนทนาของเธอและแมคคาร์ทนีย์ในคอมพิวเตอร์ของเธอ
รายงานข่าวระบุว่า แมคคาร์ทนีย์ใช้แอปพลิเคชัน Snapchat ในการกำหนดเป้าหมายเหยื่อของเขาเป็นหลัก ซึ่งต่อมาตัวแทนของ Snapchat ก็แถลงกว่า “การแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลใดๆ ถือเป็นเรื่องเลวร้ายและผิดกฎหมาย และเราขอแสดงความเสียใจกับเหยื่อในกรณีนี้”
“หากเราพบเห็นกิจกรรมนี้ หรือมีการรายงานให้เราทราบ เราจะลบและล็อกบัญชีที่ละเมิด และรายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ” เว็บไซต์โซเชียลมีเดียดังกล่าวระบุ และยังยืนยันอีกว่าแอปดังกล่าวมี “การป้องกันพิเศษสำหรับวัยรุ่น เพื่อให้พวกเขาติดต่อกับคนแปลกหน้าได้ยาก”
ขณะนี้ ทาง PPS ยังไม่หยุดดำเนินการเพื่อระบุตัวผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแมคคาร์ทนีย์เพิ่มเติม
ที่มา : edition.cnn.com, news.sky.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES,