จากกรณีบริษัท งามวงศ์วานการช่าง จำกัด ร้องศาลปกครองกลางฟ้องกรุงเทพมหานครและผู้ว่าฯ กทม. เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท จากโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัยกรุงเทพมหานคร ระยะที่ 1 จำนวน 634 ล้านบาท วงเงินทั้งโครงการ จำนวน 3,460,664,668.67 บาท เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งศาลได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1688/2567 แล้วนั้น

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เขตคลองเตย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการศาลแล้ว เบื้องต้นคงไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก เกรงจะกระทบกับคดี พร้อมชี้แจงถึงข้อจำกัดหลายอย่างที่เกิดขึ้นในโครงการ ซึ่งมีมาก่อนหน้าสมัยของตัวเอง เช่น ศูนย์ฝึกฯ ที่ถูกสร้างอยู่นอกพื้นที่ กทม. และอยู่ห่างไกลออกไป รวมถึงผังเมืองที่เป็นผังสีที่มีปัญหาเรื่องการสร้างที่อยู่อาศัย

ขณะที่ในส่วน กทม. มีพื้นที่ที่เป็นสีน้ำเงินอยู่แล้ว เป็นศูนย์ฝึกอบรมในพื้นที่หนองจอก ซึ่งมีคนดูแลรักษาความปลอดภัย มีอาคารที่พักอาศัย ที่สำคัญไม่มีข้อจำกัดด้านผังเมือง

“การที่พนักงานไปฝึก ซึ่งเป็นพนักงานดับเพลิง หรือแม้แต่ครูฝึกก็เป็นพนักงานดับเพลิงด้วย หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดไฟไหม้ขึ้น อย่างน้อยก็ยังอยู่ใน กทม. มาช่วยได้ มองว่าเป็นประโยชน์ของคน กทม. ไม่ได้มีผลประโยชน์หรือเจตนาอื่น คิดว่าเป็นประโยชน์ระยะยาว เพราะศูนย์ต้องอยู่อีกหลายสิบปี”

ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ประกอบกับยังมีเงื่อนไขอื่น และผู้รับผิดชอบก็ได้พิจารณาถี่ถ้วนแล้ว เข้าใจว่ายังไม่ได้มีการลงนามในสัญญา ซึ่งได้ย้ำให้ทำตามระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เต็มที่ ยึดประโยชน์ กทม. ระยะยาวให้ดีที่สุด โดยศูนย์ฝึกอบรมข้าราชการที่หนองจอก เป็นผังเมืองสีน้ำเงิน สามารถสร้างอาคารได้ตามที่ต้องการ แต่ที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นผังเมืองที่ไม่สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ และ กทม. ก็ไม่ได้ควบคุมผังเมือง จึงคิดว่ามีเหตุมีผล อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิร้องเรียน และเป็นหน้าที่ที่ กทม. ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ

ทั้งนี้ เมื่อถามความกังวล ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ไม่ได้กังวลเพราะเน้นย้ำมาตลอดว่าทำให้ถูกต้อง ให้มีเหตุผลและให้อธิบายได้.