จากการที่มีคลิปของ เจ๊หนึ่ง บางปู กำลังจุดธูปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ จะเห็น เจ๊หนึ่งบางปู ได้มาไหว้ขอพรจากท้าวเวสสุวรรณ ให้คนที่ทำร้ายตนและคนอื่นๆ ให้ได้รับโทษ ภายใน 3 วัน 7 วัน และขอให้ถูกยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จะได้ไม่ออกมาทำร้ายคนอื่นอีกต่อไป โดยหลังจากคลิปดังกล่าวได้แชร์ลงในโลกออนไลน์ ทำให้มีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปได้เดินทางไปที่บ้านของ เจ๊หนึ่ง บางปู เพื่อพูดคุยและสอบถาม ถึง คลิปที่ เจ๊หนึ่ง บางปู ถ่ายคลิปการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์

โดยเจ๊หนึ่ง บางปู เปิดเผยว่า ตนขออธิษฐานคนที่ตนนึกถึง เพราะดูแนวโน้มแล้วเป็นได้สูง จึงขอกระแทกไปอีก 1 ดอก ส่วนความคืบหน้าเรื่อง  คุณสนธิ  ตนขอเรียกเขาว่าคุณลุง เพราะตอนที่ตนป่วยตนจะคิดชื่อหรือนึกอะไรได้ช้าลง คุณสนธิเลยให้ตนเรียกลุง เรื่องที่คุยกันบางสิ่งบางอย่าง มันเป็นเรื่องของกฎหมายซึ่งเปิดเผยให้ภายนอกรู้ไม่ได้แต่ตนก็ต้องไว้ใจท่านและเปิดข้อมูลทุกอย่างให้ท่านทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง

โดยหลาย ๆ คนอยากให้ตนออกมาพูด เช่น เมื่อเช้าที่ตนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ก็มีดราม่าว่าทำไมไม่ให้คืนผู้เสียหาย แต่ความหมายของตนก็คือเมื่อทรัพย์สินตกถึงแผ่นดินก็คือการ / ยึดทรัพย์ / เดี๋ยวเขาก็ดำเนินการตามความยุติธรรมเอง เพียงแค่ตนไม่ได้ลงดีเทล ตอนมีดราม่าตนก็ไม่ได้เครียดเพราะทำงานอยู่ในโซเชียลมาหลายปี

ในกรณีที่มาดามอ้อยแจ้งความเอาผิด 4 คดีกับทนายคนดัง ตนมองว่าในฐานะเป็นผู้เสพข่าวคนหนึ่ง ถ้ามาดามอ้อยโดนกระทำจริงๆ แล้วการที่มีคดีก็คือตำรวจตั้งให้ ถ้ามีหลักฐานแน่นขึ้นมันก็จะเป็นข้อดีของผู้เสียหาย แต่ถ้าทางฝั่งเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เดี๋ยวเหตุการณ์ก็คงคลี่คลายเอง ถ้าเรามองแบบเป็นกลาง และ ฝากถึง ทนายคนดังว่าเป็นกำลังใจให้

ส่วนคุณลุงสนธิไม่ได้ฝากอะไรมาเป็นพิเศษแค่บอกว่าค่าแรงค่าที่ปรึกษาขอแค่  ปูม้า 10 ตัว  ตนก็คิดว่าจะไปซื้อที่ไหนให้ดี ตนยอมรับว่าคุณลุงสนธิ ตอนที่ยังไม่ได้พูดคุยกันลักษณะภายนอกค่อนข้างเป็นคนที่ดูน่ากลัว แต่พอได้ไปเจอตัวจริงได้พูดคุยก็ได้ทราบว่าท่านเป็นคนอบอุ่น และรับรู้ได้ว่าตนกำลังได้รับความยุติธรรม

เรื่องทำคลิปตนเพียงแค่อยากขอพรให้ท่านส่งเสริม ไม่ได้สาปแช่งใคร เพียงแค่ขอพรให้สิ่งที่ตนขอเป็นความจริง ถ้าบุคคลนั้นทำผิดจริงๆถือว่าเป็นสิ่งที่อันตราย จะได้ไม่มีใครโดนแบบตนแบบมาดามอ้อย แบบหลายๆคนที่เจอ จะได้ปิดตำนานเขาพับเก็บไปอยู่ในที่ที่เขาควรจะอยู่

ส่วนเรื่องมูตนเห็นอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะตนเป็นเด็กต่างจังหวัดมันเหมือนเป็นเรื่องของความเชื่อของคนต่างจังหวัด ว่ามีเจ้าพ่อเจ้าแม่อย่างที่หลายคนเคยเห็น บางคนเขาบูชาของบางอย่างแล้วเกิดความกังวลเขาก็จะเอามาฝากไว้ที่บ้าน แล้วก็เริ่มมีคนเอามาฝากเยอะขึ้น จนมันเยอะ  ตัวคุณพ่อเองก็ชอบสวดมนต์ สวดทุกวันเช้าเย็น ก็เหมือนหลายๆคนเห็น จึงสบายใจที่จะเอามาของพวกนั้นมาฝากไว้กับคุณพ่อ มันก็เลยเยอะ

โดยส่วนตัวตนมีโรงงาน ตนก็จะเอาท่านมาตั้งบูชาเอาไว้ พอตนมีปัญหาชีวิตโรงงานถูกปิดแน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างตนก็ต้องขนกลับบ้าน มันก็เลยกลายเป็นเทวาลัยย่อมๆ และถ้าเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และถ้าตรงนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนในบ้านของพนักงานและทำให้ทุกคนอยู่ในศีล 5 และเป็นคนดี ตนว่ามันก็เป็นสิ่งที่ควรทำได้