ยังคงเป็นประเด็นที่บนโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด หลังจากละครเรื่อง แม่หยัว EP : 5 โดยมีการฉายฉากที่แมวถูกวางยาตายในเรื่อง ซึ่งน้องแมวมีท่าทางกระตุกตัวเกร็ง งานนี้ทำเอาแฟนละครและเหล่าทาส แห่สงสัยว่าเป็นเพียงเทคนิคถ่ายทำ หรือวางยาจริง หวั่นใจว่านี่คือการทารุณสัตว์หรือไม่ นอกจากนี้ สังคมออนไลน์ยังมีการติดแฮชแท็กและคอมเมนต์ถกประเด็นดังกล่าว
โดยมีผู้ใช้บัญชีในทวิตเตอร์หรือ x รายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ อ้างว่าตนเองเป็นทีมงานและเล่าการทำงานของวันนั้นว่า “แมวไม่ได้ตายจริง ได้วางยาสลบแมว แต่ตอนถ่ายทำแมวได้ขย้อนกระตุกจนคิดว่าตายจริง”
นอกจากนี้ ก็มีผู้ใช้สมาชิกทวิตเตอร์หรือ x อีกราย อ้างว่าตนเองเป็นสัตวแพทย์ ได้ออกมาโพสต์ในความรู้เกี่ยวกับการวางยาสลบในสัตว์ โดยระบุว่า การวางยาสลบทุกครั้งถือว่ามีความเสี่ยงต่อชีวิตสัตว์ เพราะยาจะกดการทำงานของระบบหายใจและไหลเวียนเลือด นอกจากนี้อาจสำลักได้ เพราะสัตว์ควบคุมการอาเจียนไม่ได้ รวมถึงยาซึมเหนี่ยวนำให้อ้วก ดังนั้นก่อนวางยาจึงควรตรวจร่างกาย อดอาหาร 4-6 ชม. และมีการติตตามสัญญาณชีพ
และระหว่างวางยาต้องมีการสอดท่อช่วยหายใจ แทงเส้นน้ำเกลือเพื่อคงความดันเลือดและเผื่อในกรณีฉุกเฉินเช่นหัวใจหยุดเต้นขณะวางยา มอนิเตอร์การหายใจ การเต้นของหัวใจ รวมถึงอุณหภูมิขณะวางยาเพราะขณะสลบสัตว์จะควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ได้
ซึ่งในปัจจุบัน ปี 2024 จะ 2025 แล้ว ในฐานะคนเสพหนัง เราเห็นทางเลือกอื่นๆ ที่ humane ต่อสัตว์ในกองถ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้พร็อพ การใช้ CGI หรือแม้แต่การฝึกสัตว์ด้วยเทคนิค positive reinforcement ไม่ต้องใช้วิธีที่ทารุณและเสี่ยงตายแบบนี้
เลยอยากรู้ว่า ในกองถ่ายทำไมถึงเลือกวิธีนี้ มีวิสัญญีสัตวแพทย์ดูแลตั้งแต่ก่อนวางยา ระหว่างสลบ จนถึงเฝ้าฟื้นหรือไม่ ได้ตรวจเลือดตรวจร่างกายและอดอาหารอย่างเหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่ ขออัญเชิญสัตวแพทยสภาลงด่วน
ลืมไปว่าต่อให้มีสัตวแพทย์ดูแล แต่การวางยาสลบเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการวินิจฉัยหรือรักษาโรคหรือเพื่อการจับบังคับสัตว์ดุร้ายก็ถือว่าผิด welfare อยู่ดี เพราะฉะนั้น มีหรือไม่มีหมอหรือมีแต่เป็นหมอเถื่อนไม่มีใบประกอบ สัตวแพทยสภาก็ฟันหัวแบะได้อยู่ดี
นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังตั้งคำถาม “บิ๊นท์ สิรีธร” ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดยหลายคนถกถาม ว่าไม่เอะใจฉากดังกล่าวเลยหรือ หลังจากเข้าไปคอมเมนต์โพสต์ ว่าต้องมีชื่อเข้าชิง ต่อมาเจ้าตัวก็ออกมาชี้แจงและขอโทษ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสดราม่าที่ร้อนระอุเพจเฟซบุ๊ก Justman ได้โพสต์ตั้งคำถามเพิ่มเติมว่า เราไม่โอเค และค่อนข้างเป็นห่วงน้องแมวมาก เลยอยากได้คำชี้แจงกรณี #แม่หยัวEp5 ว่าปัจจุบันน้องเป็นไงบ้าง คือในฉากที่น้องกินน้ำ (ที่ในเรื่องคือยาพิษ) และหลังจากนั้นน้องแมวตัวกระตุก เหมือนจะขย้อนอาหารออก แล้วก็นิ่งไปเลย เราเลยขอพูดถึง/ตั้งคำถามว่า ใช้วิธี หรือเทคนิคอะไรให้น้องทำแบบนั้นได้ โดยมีทวิตเตอร์ (X) หนึ่งที่น่าจะ (หรืออ้างว่า) เป็นทีมงานมาบอกว่า น้องไม่ได้ตุยจริง ๆ แต่เป็นการวางยาสลบแมว
ซึ่งดูจากสภาพแล้วน่าจะเป็นไปได้ การวางยาสลบแมวมีข้อควรระวังและข้อเสียที่เยอะมาก ผมในฐานะคนเลี้ยงแมวได้ปรึกษาสัตวแพทย์บ่อยมาก กว่าจะตัดสินใจพาน้องไปทำหมันที่ต้องวางยาสลบ โดยต้องอดอาหาร 8-12 ชั่วโมง แม้แต่น้ำก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้น้องขย้อนจนเศษอาหารติดหลอดลม ปิดกั้นทางเดินหายใจ (ร้ายแรงสุดคือตุย)
ทั้งทวิตเตอร์ดังกล่าวก็บอกต่อว่า ตอนกระตุก นึกว่าตุยจริง เลยอยากทราบว่าในการถ่ายทำมีสัตวแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลอย่างใกล้ชิดหรือไม่ (แต่ต่อให้มีจริง ๆ การวางยาสลบแมวเพื่อให้ได้มาซึ่งฉากดังกล่าวเราว่ามันเกินไปมาก ๆ สำหรับเรา)
หากกรณีไม่ได้ใช้ยาสลบจริง หรือไม่ได้ใช้วิธีใดที่เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์จริง (ซึ่งเราก็คาดหวังขอให้น้องเล่นด้วยวิธีธรรมชาติ) ก็อยากให้ตอบคำถามว่า
1. ใช้วิธีอะไรทำให้น้องแมวตัวกระตุก และสลบลงไปได้แบบนั้น เป็นแมวที่ฝึกมาหรือใช้ในการแสดงโดยเฉพาะ
2. สภาพน้องตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
แม้จะเป็นแมวจร แต่กรณีนี้ถือเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้ในการแสดง ซึ่งถูกคุ้มครองโดย พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และการวางยาสลบเพื่อมาแสดง ก็ไม่น่าจะเข้าข้อยกเว้นได้นะ เลยอยากใช้พื้นที่นี้ขอคำชี้แจงดังกล่าว ผมในฐานะคนรัก/เลี้ยงแมวคือ Sensitive กับฉากนั้นมาก ๆ…