จากกรณีศึกษาเมื่อปี 2561 ของบริษัทกฎหมาย Cosmetic Surgery Solicitors ในอังกฤษ ซึ่งเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 666 คน พบว่า จำนวน 47% ของกลุ่มตัวอย่าง เคยรับการรักษาฟอกสีฟันหรือทำศัลยกรรมเพื่อให้ฟันมีสีขาวขึ้น
ด้านดร.เฟรักห์ ฮามิด ทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาถึง 20 ปีจากอังกฤษก็ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี ไม่ขาวสะอาด และอธิบายว่าเพราะเหตุใดเราจึงควรทำให้แปรงสีฟันเปียกน้ำก่อนที่จะลงมือแปรงฟัน
ดร.ฮามิดกล่าวว่า การใส่ยาสีฟันลงบนแปรงสีฟันที่แห้งสนิทอาจส่งผลร้ายต่อฟันของเรามากกว่าจะเป็นผลดี เพราะน้ำจะทำหน้าที่คล้ายสารหล่อลื่นระหว่างแปรงฟัน หากมีน้ำน้อยไป อาจส่งผลให้ฟันกลายเป็นสีเหลืองได้
ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การแปรงฟันบางวิธี เช่น แปรงแบบไม่ใช้น้ำหรือแปรงฟันทันทีหลังจากรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว, มะเขือเทศ, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจทำให้ความขาวของฟันลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
การแปรงฟันแบบแห้งดูเหมือนจะดีสำหรับการกำจัดคราบบนผิวฟัน แต่ถ้าไม่มีน้ำ ยาสีฟันก็จะไม่สามารถครอบคลุมได้ทั่วผิวฟัน นอกจากนี้ เมื่อทำให้ขนแปรงสีฟันเปียก มันจะนุ่มลง ซึ่งลดการทำลายหรือก่อการระคายเคืองแก่ผิวฟันและเหงือก
ทางด้านดร.เอซซอาร์ โรลล์ ทันตแพทย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียแห่งสหรัฐก็แนะนำว่า เวลาแปรงฟัน ควรงดการแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารที่มีกรด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้, น้ำอัดลมหรือลูกอมรสเปรี้ยว เพราะเมื่อกรดเข้าไปในช่องปาก มันจะเข้าไปทำลายเคลือบฟัน
ดร.โรลล์ยังแนะนำว่า หลังจากรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีกรด ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหรือดื่มน้ำเปล่า เพราะน้ำจะช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างแร่ธาตุของเคลือบฟันได้
นอกจากนี้ เขายังแนะนำให้ถือแปรงสีฟันในมุม 45 องศากับเหงือกเวลาแปรงฟัน ดร.โรลล์กล่าวว่า “โดยปกติแล้ว คุณควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันหลังอาหารทุกมื้อ แต่สำหรับคนที่มีงานยุ่งหรือมีตารางงานที่ยุ่งมาก อาจไม่เหมาะสมนัก ดังนั้น เราจึงแนะนำให้แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และควรแปรงฟันก่อนนอน”
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES