เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของทนายตั้ม เปิดเผยหลังออกจากรายการโหนกระแส ว่า คดีของนางปทิตตา ที่ตนเองดูแลอยู่นั้น จะทำเฉพาะในชั้นพนักงานสอบสวนเท่านั้น ส่วนชั้นศาลน่าจะมีทนายท่านอื่นที่รับทำคดีไป พร้อมยืนยันว่า ตนเองจะไม่รับว่าความให้ทนายตั้ม ต่อจากทนายสายหยุดด้วย

โดยสาเหตุหลักมาจากกรณีที่ตนเองเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ว่า ตัวนางปทิตตา ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนการรับโอนบ้านพร้อมที่ดินมูลค่าประมาณ 43 ล้านบาท ซึ่งหากนางปทิตตา ยืนยันว่า ไม่รู้ว่าเงินที่ซื้อบ้านได้มาจากการฉ้อโกง ก็ควรจะนำโฉนดที่ดินดังกล่าวไปวางไว้ที่ศาล เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง โดยช่วงแรกที่มีการประสานกัน ตนเองตกลงกับนางปทิตตา เรียบร้อยแล้วว่าจะทำแบบนี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปเยี่ยมนางปทิตตา ในเรือนจำ ปรากฏว่ามีคำสั่งมาจากคนในเรือนจำ ไม่อนุญาตให้นำโฉนดดังกล่าวไปวางที่ศาล

เมื่อถามว่าคนในเรือนจำที่สั่งไม่ให้เอาโฉนดไปวางคือใคร เป็นทนายตั้มหรือไม่ นายอาคม ยืนยันว่า มาจากคนในเรือนจำ อย่าไประบุขนาดนั้นเลย พร้อมอธิบายว่า ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นสินสมรสระหว่างทนายตั้มและภรรยา ซึ่งหากจะเอาที่ดินไปทำอะไร ก็ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งคู่ก่อน

โดยคดีของภรรยาทนายตั้มนั้น นายอาคม กล่าวว่า ตนได้ยื่นขอประกันตัวไปแล้วก่อนหน้านี้เป็นเงินสด 5 แสนบาท ซึ่งในวันนี้ ก็ต้องรอผลการพิจารณาจากศาลในเรื่องคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวว่าผลจะเป็นอย่างไร

ส่วนกรณีทนายสายหยุดถอนตัวนั้น นายอาคม บอกว่า ตนเองได้พูดคุยกับทนายสายหยุด โดยดูจากข่าวและหลักฐานที่มี เพื่อตัดสินใจว่าควรจะเดินต่อไปหรือไม่ ซึ่งมองว่าข้อมูลที่สื่อมวลชนนำเสนอ และข้อมูลที่นายสนธินำเสนอ ข้อมูลที่นายปานเทพนำเสนอ บ่งชี้ไปในทางที่ไม่เป็นคุณกับตัวทนายตั้มและพวก เพราะฉะนั้นอย่างที่ทนายสายหยุดอธิบายไป หากทำคดี 39 ล้านแล้วชัดเจน ก็คงทำคดีต่อไปไม่ได้

ส่วนใครเหมาะสมจะมาทำคดีให้กับทนายตั้ม นายอาคม บอกว่า หากอยากให้แนะนำ คงแนะนำเป็นทนายเดชา เพราะเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีความเป็นอาวุโส และได้ให้ความเอ็นดู ทั้งเป็นผู้สนับสนุนทนายตั้ม จึงแนะนำให้ทนายเดชา จัดทีมทนายให้มาช่วย

ส่วนกรณีที่ได้พูดไปในรายการโหนกระแสว่าให้ทนายตั้ม คืนเงินกับเจ๊อ้อย แต่ทนายตั้ม บอกว่า “ถ้าคืนเงินก็หมดตูด” นายอาคม กล่าวว่า ในความคิดของตน เวลาผู้ที่ให้ยืนยันว่าเขาไม่ได้ให้เงินกับเรามา เขาก็ทวงถามทวงคืน โดยหลักแล้วผู้รับควรที่จะต้องคืน หรือเข้าไปเจรจาด้วยความสุภาพ อ่อนน้อม และอย่างน้อยๆ ก็ต้องคืนเงินไปบ้าง แต่ถ้าจะบอกว่าคืนแล้วหมดตูด ก็ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ไม่มีคำตอบ เพราะฉะนั้นแนวทางก็คงจะทำคดีด้วยกันต่อไปไม่ได้ โดยกรณีที่ทนายตั้ม พูดว่าหมดตูดนั้น ส่วนตัวเป็นไปได้สองแนวทาง คือ ทนายตั้ม อาจจะยังมีความมั่นใจว่าคดีน่าจะสามารถต่อสู้ต่อไปได้ หรือทนายตั้ม น่าจะรอให้คดีไปถึงชั้นศาลแล้วค่อยเจรจาก็ได้

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงย่ามสีขาวที่นายอาคม สะพายมาออกรายการ ที่มีข้อความว่า “ไอ้ตั้มหัวรวย” มีความหมายอย่างไรหรือไม่ นายอาคมกล่าวว่า ย่ามนี้ เพจ “ออยศรีและผองเผือก” ให้ตนเองมานานแล้ว ที่จริงมีเสื้อด้วย แต่ไม่ได้ใส่มา และย่ามนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าอยากจะสื่อสารให้เข้าใจ ก็บอกได้ว่าตนเข้าใจความรู้สึกออยศรี ที่ตกเป็นผู้ประสบภัย ก็อยากจะให้น้องรับรู้เพียงเท่านั้น