เมื่อวันที่ 27 พ.ย. บริเวณพื้นที่หมู่ 10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. นายธันวา ผุดผ่อง ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สนธิกำลังกับ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ. พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาล 6 ราย ซึ่งมีทั้งคนชาติพันธุ์และคนไทย ภายใต้ชื่อ “ปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2” เพื่อทลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบน พื้นที่ จ.เชียงราย
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการสืบสวนขยายผล 2 เดือน ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากเคสเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 67 เครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ โดยมีชาวเมียนมาเป็นหัวหน้าเครือข่าย ในครั้งนั้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางเฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม ซึ่งถูกลำเลียงซุกซ่อนโดยกระบะดัดแปลงทำช่องลับ ก่อนนำมาสู่การขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 6 รายดังกล่าว เบื้องต้นในวันนี้จับกุมได้แล้ว 3 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามจับกุมตัว พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินในวันนี้รวม 101 ล้านบาท มีทั้งเงินสดพันธบัตรของประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงสร้อยคอทองคำ พระเลี่ยมกรอบทอง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องยาเสพติด แม้ปลายทางของยาเสพติดส่วนใหญ่จะส่งออกประเทศที่สาม แต่ก็มียาเสพติดบางส่วนที่อยู่ในไทย เราจึงต้องยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดข้ามชาติที่สำคัญนี้ เพราะมันมีผลกระทบรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตคนไทย และส่งผลไปถึงการบำบัดฟื้นฟูแก้ไขผู้ติดยาเสพติด เพื่อที่ไทยจะได้ประหยัดงบประมาณในเรื่องแก้ไขยาเสพติด ไปพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ ได้
พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า จังหวัดเชียงรายถือเป็นพื้นที่เสี่ยงรับภาระการแพร่ระบาดของยาเสพติด เพราะขบวนการเหล่านี้มักลำเลียงยาเสพติดเข้าทางภาคเหนือตอนบน และส่งเข้าพื้นที่ภาคกลาง ก่อนนำลงภาคใต้ เพื่อเตรียมส่งขายประเทศปลายทาง ดังนั้น การตัดวงจรเครือข่ายนี้ได้จึงเป็นการป้องกันคนจำนวนกว่าหลายหมื่นคนที่จะห่างไกลจากยาเสพติด ตนจึงขอชื่นชมผู้ปฏิบัติงานทุกคน ทั้งนี้ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ จะมีการเดินทางลงพื้นที่ ครม.สัญจร ณ จังหวัดเชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เพื่อหารือกับคณะผู้บริหารเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นวาระแห่งชาติ และยกระดับไปยังวาระของภูมิภาค นานาชาติ เพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากประเทศในภูมิภาคข้างเคียงและระดับนานาชาติ มิใช่ให้ไทยต้องรับภาระการแก้ไขปัญหาเสพติดอยู่ฝ่ายเดียว
ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลมักบอกว่า เรามักจับนักค้ายาเสพติดได้แค่ระดับแรงงานหรือคนลำเลียง แต่วันนี้เราจะต้องมีการทำงานให้เข้มข้นขึ้น ต้องประชุมและเปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม แม้แหล่งผลิตยาเสพติดจะไม่ได้อยู่ที่ไทย แต่อยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ แต่ไทยกลับถูกใช้เป็นทางผ่าน ตนจึงต้องมีปฏิบัติการนี้ขึ้นเพื่อทำการจับกุมคนที่เกี่ยวข้องในแหล่งผลิตตั้งต้นของยาเสพติด เหมือนครั้งที่เราได้จับกุม “พันเอกจะลอโบ” หัวหน้าชาติพันธุ์ชาวเมียนมา นักค้ายาเสพติดรายสำคัญก่อนหน้านี้
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนของขบวนการค้ายาข้ามชาติของ “นายไอ ยี่ ซอ” ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีนั้น แม้ยังไม่ได้ตัว แต่เราได้มีการยึดทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิด เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 11 แปลง อยู่ใน จ.เชียงราย จ.พิษณุโลก จ.นนทบุรี จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ เงินสดที่เจอภายในบ้านของนายไอ ยี่ ซอ ประมาณ 4 ล้านบาท และในธนาคารอีกกว่า 10 ล้านบาท ฯลฯ รวมมูลค่า 101 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนพยายามจะรวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมตัวผู้ผลิตยาเสพติดให้ได้ โดยใช้ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 หรือ MLAT สำหรับใช้นำสืบในชั้นศาลได้ แต่หน่วยงานสำนักงานอัยการสูงสุด คือ หน่วยที่สามารถส่งพนักงานอัยการที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์มาร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงาน เพื่อรวบรวมหลักฐานไปถึงตัวคนผลิตยาเสพติดให้ได้
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยด้วยว่า สำหรับมาตรการซีลพื้นที่แนวชายแดน ตนได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 ที่ได้นำเสนอให้ซีลพื้นที่ทางภาคเหนือ และใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย และนครพนม ผ่านการใช้กฎหมายประมวลยาเสพติดฉบับใหม่ มาตรา 5(10) ปรากฏว่าพอเราซีลพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว บรรดาขบวนการนักค้ายาเสพติดก็มีการดัดแปลงเส้นทางไปใช้ทางจังหวัดอื่นแทน เช่น จ.เลย ตาก แม่ฮ่องสอน จึงทำให้เมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงเสนอบอร์ด ป.ป.ส. ซีลพื้นที่ชายแดนเป็นครั้งที่ 2 กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ย. เราได้นำเสนอบอร์ด ป.ป.ส. สั่งให้มีการซีลพื้นที่ชายแดน 13 จังหวัด 48 อำเภอ ตั้งแต่ จ.กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา เลย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร หนองคาย อำนาจเจริญ อุบลราชธานี เพื่อให้แม่ทัพภาคที่ 1 ดูแลกรณี จ.กาญจนบุรี แม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เป็นคนนำทัพแก้ไขปัญหายาเสพติด และดูว่าต้องอุดช่องโหว่ใดบ้าง
ด้านนายปฤณ กล่าวว่า บรรดาทั้งหมด 6 หมายจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดของเครือข่ายนายไอ ยี่ ซอ นั้น ตอนนี้นายไอ ยี่ ซอ ยังหลบหนี แต่จะพยายามติดตามตัวกลับมา ส่วน 3 รายที่จับได้วันนี้ คือ ผู้ร่วมลำเลียง ได้แก่ 1.นายสาม (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ร่วมลำเลียงและเป็นมือขวาของนายไอ ยี่ ซอ 2.น.ส.แสงเพชร (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ร่วมลำเลียง และ 3.นายนิวัตร (สงวนนามสกุล) ส่วนคำให้การเบื้องต้นของภรรยานาย ไอ ยี่ ซอ คือ นางแสงดาว (สงวนนามสกุล) ที่เจอในบ้านพักจุดตรวจค้นที่ 1 ณ บ้านเลขที่ 938 หมู่ 10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นั้น เธอระบุว่า สามีจะข้ามกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดเพราะต้องมารับยาที่นี่ มิเช่นนั้น เจ้าตัวอาจเสียชีวิตที่ฝั่งนู้น แต่เราก็จะจับทันทีหากกลับมาไทย แต่เราก็ได้ประสานกับทางการเมียนมาต่อเนื่อง แต่เนื่องด้วยเขาสัญชาติเมียนมา ไม่สามารถใช้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ ส่วนพฤติกรรมความถี่ระหว่างการเดินทางข้ามฝั่งไทย-เมียนมา พบว่าบริเวณแนวชายแดนจะมีการข้ามทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ซึ่งเขาก็มีการเดินทางข้ามไปมา ส่วนกรณีบุคคลใกล้ชิดหรือภรรยาของผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่นั้น เรื่องนี้อยู่ที่ความเกี่ยวข้อง ถ้าขยายผลแล้วพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวก็จะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ส่วนภรรยาจะรู้เห็นกับสามีหรือไม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำ.