เมื่อวันที่ 27 พ.ย. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการและเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ ตามมาตรา 38 ก. (3) (4) (5) ในสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารงานบุคคลในสถาบันการอาชีวศึกษามีความเป็นมาตรฐานเทียบเคียงกับสถาบันอุดมศึกษา โดยสาระสำคัญของร่างหลักเกณฑ์ใหม่นี้ กำหนดให้มีการประเมิน 2 รอบต่อปี โดยรอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ของปีถัดไป และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน ของปีเดียวกัน องค์ประกอบการประเมินแบ่งเป็นผลสัมฤทธิ์ของงานร้อยละ 70 และพฤติกรรมการปฏิบัติราชการ (สมรรถนะ) ร้อยละ 30 ในด้านการเลื่อนเงินเดือน ได้กำหนดกรอบวงเงินร้อยละ 3 แยกตามกลุ่มประเภทตำแหน่ง ภายใต้การกลั่นกรองของคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง พร้อมทั้งกำหนดให้มีการประกาศอัตราร้อยละของฐานการคำนวณอย่างโปร่งใส
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบร่างแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครู รวมทั้งการกำหนดปฏิทินการย้ายฯ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System) เพื่อให้ข้าราชการครูผู้ประสงค์ขอย้ายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ความเข้าใจ สามารถนําไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตัวชี้วัด คะแนน และเงื่อนไข ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด รวมทั้งความสอดคล้อง เชื่อมโยงกับขั้นตอนการดำเนินการในระบบ TRS ซึ่งการดำเนินการย้ายในปี 2568 กำหนดไว้ 2 รอบ โดยรอบแรกจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ถึงมีนาคม 2568 และรอบที่สองระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2568 ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การยื่นคำร้อง การตรวจสอบคุณสมบัติ การพิจารณาของสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนถึงการออกคำสั่งย้ายและรายงานตัว สำหรับคุณครูที่จะดำเนินการย้ายผ่านระบบ TRS ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและเงื่อนไขครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 6/2567 และไม่ติดเงื่อนไขการบรรจุและแต่งตั้งอื่นใดตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. หรือหน่วยงานอื่นกำหนด โดยสำนักงาน ก.ค.ศ. เตรียมเปิดระบบให้ข้าราชการครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เข้าใช้งานระบบและยื่นคำขอในเดือนมกราคม 2568 นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และของขวัญวันครูจากกระทรวงศึกษาธิการ
“นวัตกรรมการบริหารงานบุคคลครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการ ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบดิจิทัล การสร้างมาตรฐานและความโปร่งใสในกระบวนการย้าย การลดขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการ รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้ข้าราชการครูสามารถติดตามสถานะการย้ายได้ตลอดเวลา และผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนความมุ่งมั่นของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาระบบราชการให้ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาระบบราชการยุคดิจิทัล โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบการศึกษาไทยและข้าราชการครูทั่วประเทศ ระบบ TRS จึงไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการบริหารงานบุคคล แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการทำงานของภาครัฐให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว