จากกรณีช็อกโลกออนไลน์สุดเศร้าอาลัย ภายหลังจากการเสียชีวิตของนักร้องสาว “ผิง ชญาดา” ภายหลังจากที่เธอไปนวดบิดคอ แก้อาการปวดเมื่อย แต่ภายหลังกลับไม่สามารถขยับได้ ต้องนอนติดเตียง โดยเธอได้โพสต์แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์เตือนคนชอบนวด ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ช็อก! นักร้องสาว ผิง ชญาดา เสียชีวิตแล้ว หลัง ‘นวดบิดคอ’นอนติดเตียงจนสิ้นลม
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 67 มีผู้ใช้เพจ “ด๊อกเตอร์ หมอหมี” หรือ ดร.นพ.จตุพล คงถาวรสกุล ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมแนะสายนวดอย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนเกินไป

โดยหมอหมี เผยว่า “สำหรับข่าวตอนนี้ที่กำลังดัง เรื่องของการนวดแล้วทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ ผมไม่ได้รู้ข้อมูลลึกมากว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ แล้วการนวดเป็นอย่างไร แต่จากที่เห็นในเอกซเรย์ พบว่า ตัวหมอนรองกระดูกคอ ที่มีการเคลื่อนจากภาพเอกซเรย์ คือ คอระดับ 4 ต่อ 5 อีกทั้ง คอระดับ 4 ต่อ 5 นั้น ปกติแล้ว ถ้าต่อให้นวดบิดจนหมอนรองกระดูกไปทับเส้นประสาทจริงๆ ส่วนใหญ่ก็มาด้วยอาการอ่อนแรง อาจจะอ่อนแรงแขนและขา แต่การที่นวดแล้วเสียชีวิตเลยโอกาสมันน่าจะยาก”
อีกทั้ง “ถ้าจะเสียชีวิตจริงๆ อาจจะเป็นคอระดับ 1 ต่อ 2 คือระดับ 1 ต่อ 2 เป็นอะไรที่เซนซิทีฟมาก สมมุติถ้ามีอุบัติเหตุแล้วบิด หรือเกิดการกระชาก ทำให้มีการกดไขสันหลังอย่างรุนแรง อันนี้มีโอกาสทำให้กดระบบหายใจ แล้วหายใจไม่ได้ หรือเสียชีวิต ดังนั้น ใครที่ไปนวดอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป แล้วคนส่วนใหญ่ที่ไปนวดมา ไม่ได้มีปัญหาเสียชีวิตกันทุกคน แต่ถามว่าเคยเจอหรือไม่ ที่นวดแล้วหมอนรองกระดูกปลิ้นเพิ่มขึ้น ทำให้มีอาการชา อ่อนแรง อันนี้ก็เคยเจออยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ถ้าดึงคอ กายภาพอาการจะดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม “ถ้านวดบิดจนทำให้เสียชีวิต จากที่ผมมองจากเอกซเรย์ ระดับ 4 ระดับ 5 โอกาสเสียชีวิตน่าจะยาก ถ้าเป็นระดับบนกว่านี้ ก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ แต่ว่าต้องใช้แรงที่ค่อนข้างมากถึงจะทำให้เคลื่อน หรือหลุด และไปทับได้ ดังนั้น ใครที่จะนวดก็แค่ต้องระมัดระวัง อย่าไปดึง อย่าไปดัด เพราะบางทีเราอาจจะบิดมากเกินไป แล้วถ้าเราเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นอยู่แล้วจะทำให้กดมากขึ้น ทำให้เกิดการอ่อนแรงได้ แต่การเสียชีวิตนั้น ต้องดูผล MRI หรือต้องไปวิเคราะห์อีกครั้ง”
ขอบคุณข้อมูล : ด๊อกเตอร์ หมอหมี