สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ ประกาศห้ามการประกอบการเกมออนไลน์ “โดยสิ้นเชิง” ภายในสิ้นปีนี้ หลังกิจการดังกล่าวถูกใช้เพื่อบังหน้าขบวนการค้ามนุษย์ ฟอกเงิน ฉ้อโกงออนไลน์ ลักพาตัว และฆาตกรรม

นายเฟลิกซ์ นิโคลัส ไท ปลัดกระทรวงยุติธรรมฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะยังคงเดินหน้าบุกจับ และทลายเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ เนื่องจากแก๊งอาชญากรยังคงลับลอบค้าแรงงานต่างชาติ ด้วยการบังคับให้พวกเขาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และชักชวนผู้คนมาลงทุนปลอม

ไทกล่าวว่า แก๊งหลอกลวงเหล่านี้ไม่ได้ปฏิบัติการในคอมเพล็กซ์ หรืออาคารสำนักงานขนาดใหญ่ในเมืองแล้ว แต่ย้ายไปตั้งสำนักงานในต่างจังหวัด ซึ่งอยู่ในตึกที่ดูไม่โดดเด่นแทน และมีระดับเล็กกว่าในรีสอร์ทหรืออยู่ในที่พักอาศัย รวมถึงใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ใช่ “ระดับทันสมัยที่สุด” อีกด้วย

แม้จะมีสัญญาณว่า “ทรัพยากร” ของพวกเขาลดลง อย่างไรก็ตาม บรรดาแก๊งอาชญากรยังคง “ฝังรากลึก” ซึ่งอาจทำให้เป็นไปได้ยากที่รัฐบาลจะจัดการได้อย่างถอนรากถอนโคน เนื่องจากทรัพยากรและกำลังคนที่ยังคงมีอยู่จำกัด

กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากจีน และมีการประเมินว่า พวกเขาอาจมีพนักงานมากถึงครึ่งล้านคนทั่วโลก ขณะที่ในฟิลิปปินส์มีลูกจ้างถึง 15,000 คน ส่วนใหญ่ถูกจ้างผ่านโซเชียลมีเดีย และจะถูกทรมาน หากไม่สามารถทำการหลอกลวงเหยื่อได้ตามที่กำหนด

อนึ่ง เครือข่ายการหลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ณ ปัจจุบัน ตั้งอยู่ในประเทศเมียนมา และคาดว่ามีลูกจ้างมากถึง 120,000 คน.

เครดิตภาพ : AFP