สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ว่าโครงการสนับสนุนค่าเล่าเรียนดังกล่าวมีเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมชุมชนระหว่างประเทศ และขยายการใช้เครื่องมือแพทย์และยาของญี่ปุ่นไปทั่วเอเชีย คาดว่าจะเริ่มต้นได้เร็วที่สุดในปีงบประมาณ 2569 และมีแผนจะรับนักศึกษาในระยะแรก ประมาณ 20 คน

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณา จะประเมินคุณสมบัติของผู้สมัคร ผ่านสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งอาเซียนและเอเชียตะวันออก (อีอาร์ไอเอ) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่มีสำนักงานในอินโดนีเซีย และได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น

ผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการฝึกอบรมภาษาญี่ปุ่นในประเทศบ้านเกิด ก่อนเดินทางมายังญี่ปุ่น และศึกษาที่โรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำเป็นเวลา 6 ปี แล้วสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ โดยรัฐบาลจะรับผิดชอบค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพทั้งหมด

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจัดสรรงบประมาณ 290 ล้านเยน (ราว 64 ล้านบาท) สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ในงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบประมาณ 2567

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นจะประกาศอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขเกี่ยวกับประเทศซึ่งมีสิทธิเข้าร่วม กระบวนการค้นหาผู้สมัคร และรายชื่อมหาวิทยาลัย

ค่าเล่าเรียนของโรงเรียนแพทย์ในญี่ปุ่น มีตั้งแต่หลายแสนเยนถึงหลายล้านเยนต่อปี (ราว 22,146-221,462 บาท) แต่นักศึกษาต่างชาติมักประสบปัญหาเรื่องภาษา

แม้มหาวิทยาลัยบางแห่งมีทุนการศึกษา และโครงการสนับสนุนทั่วไปสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่จำนวนนักศึกษาแพทย์ต่างชาติกลับเท่าเดิม

สถิติ ณ เดือน พ.ค. 2566 มีนักศึกษาต่างชาติ 217 คน รวมถึงนักศึกษาระยะสั้น ศึกษาในโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนทั่วญี่ปุ่น คิดเป็นเพียงไม่ถึง 1% ของนักศึกษาแพทย์ทั้งหมดในประเทศ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES