เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. 67 ที่ โรงแรมสมายล์ ล้านนา จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สอท. ช่วยราชการ รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท รอง ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ พร้อมเชิญนายจ้าง ผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำความเข้าใจให้ความรู้การอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรและการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล สำหรับคนต่างด้าว 4 สัญชาติ และเตือน “โบรกเกอร์เถื่อน” หลอกเรียกเงินนายจ้างนำเข้าแรงงาน หากพบจะถูกดำเนินคดีเด็ดขาด

พล.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า วันนี้ตนได้เชิญนายจ้างและผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มาเข้ารับการอบรม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการของ สตม. กับคนต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ให้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ครบถ้วน สะดวกรวดเร็วกับทั้งตัวผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถอยู่ต่อในราชอาณาจักรได้อย่างถูกต้อง โดยผู้ประกอบการทุกท่าน สามารถนำคนต่างด้าวที่ซึ่งได้รับการอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 ก.พ. 68 มารับการตรวจอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรภายในวันที่ 13 ก.พ. 68 และคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลได้ภายในวันที่ 28 มิ.ย. 68 หากล่วงเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 81 ฐานอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด สำหรับนายจ้าง หรือผู้ประกอบการ อาจจะมีความผิดฐานให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น ให้ความช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท

ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือนายจ้างและผู้ประกอบการทุกท่านไม่จ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีอนุญาตทำงาน หรือ ให้คนต่างด้าวทำงานที่ต้องห้ามคนต่างด้าวทำ 40 งาน แบ่งเป็นงานที่ห้ามทำเด็ดขาด 27 งาน และงานที่ให้คนต่างด้าวทำได้โดยมีเงื่อนไข 13 งาน ซึ่งหากตรวจพบการฝ่าฝืนกฎหมาย คนต่างชาติทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000–50,000 บาท และถูกผลักดันส่งกลับ และในส่วนนายจ้างที่จ้างคนต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างชาติทำงานนอกเหนือสิทธิจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างชาติที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000–200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างชาติทำงานเป็นเวลา 3 ปี
ทั้งนี้ ผบช.สตม. ยังได้กล่าวกำชับ นายจ้าง สถานประกอบการ ปัจจุบันเริ่มมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้ตัวแทน (Agent) ไปดำเนินการติดต่อ กับทางกระทรวงแรงงาน หรือ ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว ตาม มติ ครม. โดยมีการเรียกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ นั้น ขอเรียนว่าในส่วนขั้นตอนของ สตม. นั้น ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกินจากค่าธรรมเนียมที่ทางราชการกำหนดไว้ และปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นตอนของ สตม. คือขั้นตอนการอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร จึงมั่นใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดไปเรียกเก็บผลประโยชน์อย่างแน่นอน หากพบเบาะแสสามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัด หรือแจ้งมาที่ตน จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกกรณี
ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเน้นไปที่ภาคการท่องเที่ยว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยโดยเฉพาะ สตม. เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การแย่งอาชีพคนไทยอย่างจริงจัง หากพบเบาะแสการกระทำความผิดของคนต่างด้าว สามารถแจ้งได้ที่ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดทั่วประเทศ.