จากกรณี นายอภิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี คนไข้เข้ารับการผ่าตัดรักษาตัวจากโรคไส้ติ่งอักเสบใน รพ.สุรินทร์ แต่ภายหลังกลับเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด ใช้ขวานดับเพลิงไล่ทำลายข้าวของ รวมไปถึงบุคลากรใน รพ. โดยช่วงเกิดเหตุแม่ของนายอภิชัย อยู่ด้วยแต่อ้างว่าหวาดกลัวลูกชาย จึงหลบหนีเอาตัวรอดไปก่อน จนกระทั่งตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์เข้ามาระงับเหตุ แต่อีกฝ่ายขัดขืนจะเข้าทำร้ายจึงได้ชักปืนยิงตอบโต้ป้องกันตัว เป็นเหตุให้ นายอภิชัย บาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิต ภายหลังแม่และทางญาติคาใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สงสัยว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ครอบครัวญาติพี่น้องและชาวบ้าน ได้เคลื่อนศพ นายอภิชัย ไปยังเมรุ วัดอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โดยมี พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย นายแพทย์ชวมัย สืบนุการณ์ ผอ.โรงพยาบาลสุรินทร์และคณะ เข้าไปร่วมทอดผ้าบังสุกุลและวางดอกไม้จันทน์เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจหรือเผาศพนั้น ได้มีการอ่านประวัติของ นายอภิชัย ด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ นายแพทย์ชวมัย ได้เข้ามาพูดคุยกับทางญาติก่อนออกมาเปิดเผยว่า ประเด็น “กล้องวงจรปิดเสีย” ว่า ขณะนี้กล้องอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนมีทั้งหมด 21 ตัว และหนึ่งในนั้นก็เป็นกล้องอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย กำหนดจะติดตั้งกล้องตัวใหม่ในระหว่างช่วงนี้ จะเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลตามระเบียบการกระทรวงสาธารณสุข และเป็นช่วงจังหวะพอดีที่เกิดเหตุ จึงอยากให้ชาวโซเชียลได้เข้าใจด้วย

ด้านกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนที่อัธยาศัยดี ช่วยเหลือชุมชน เพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นคนดีมาก ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่านี้ เสียใจมากในการจากไปด้วยเหตุการณ์อย่างนี้ แต่ก็อยากให้ผู้ตายและครอบครับได้รับความเป็นธรรม

อย่างไรก็ตามหลังจากเสร็จพิธีฌาปนกิจ ทางญาติของ นายอภิชัย ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจจะนัดเข้าไปพูดคุยกันที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อให้ดูกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ที่หน้าอกตำรวจ ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร หลังจากนั้นค่อยว่ากันและจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายต่อไป.