เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 311 ชั้น 3 ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกประชุมคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษา เลขานุการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 54 เพื่อพิจารณาปัญหาการร้องเรียนที่ปะชาชนได้ร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก โดยครั้งนี้ได้นำเรื่องสำคัญเข้าพิจารณา 3 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องโครงการปลูกป่าจังหวัดลำปาง จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดสุโขทัย ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง), เรื่องการจัดเก็บและการใช้จ่ายของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการชลประทาน กรมชลประทาน และเรื่องตรวจสอบการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณกองทุนพัฒนาน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
การประชุมครั้งนี้ทั้ง 3 เรื่อง ยังไม่มีข้อสรุปเนื่องจากผู้ชี้แจงยังไม่ได้นำส่งเอกสารเพื่อให้ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบรายละเอียดการชี้แจงจึงยังสามารถสรุปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงการปลูกป่าจังหวัดลำปาง จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดสุโขทัย, เรื่องการจัดเก็บการใช้จ่ายเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการชชลประทาน และเรื่องการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล สาระสำคัญ กมธ.ป.ป.ช. ได้แจ้งให้ผู้ชี้แจงนำเอกสารเพิ่มเติมทั้งหมด เนื่องจาก กมธ.ป.ป.ช. มีข้อสงสัยในทุกโครงการที่อาจจะส่อไปในทางทุจริต สำหรับบรรยากาศการประชุม ได้มีผู้ร้องได้เข้ายื่นเอกสารถึงห้องประชุม เพื่อขอให้ตรวจสอบการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทับกับคลองน้ำเค็ม เป็นตัวแทน พระ จากวัดบ้านทุ่งเสรี แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร โดยอ้างถึงหนังสือแจ้งจากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายทุนถมคลองน้ำเค็มแล้วนำไปออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ทำให้ประชาชนที่เคยใช้ประโยชน์จกบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน ที่เรื่องนี้ กมธ.ป.ป.ช. จะพิจารณานำปัญหานี้เข้าที่ประชุมเพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป

ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า การทำงานอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ จัดตั้งตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ให้มีหน้าที่กระทำการพิจารณา สอบสวนหาข้อเท็จ หรือศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการ และมาตรการการป้องกัน และการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และเพื่อให้การดำเนินงานของคณะกรรมการ เป็นไปโดยประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และข้อบังคับของการประชุมสภาผู้ราษฎร โดยคณะกรรมการการป้องกันและการปราบปรามฯ ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาเพิ่มเติม 2 อนุกรรมาธิการ คณะแรก อนุกรรมาธิการศึกษากลั่นกรอง เรื่องร้องเรียน และตรวจสอบรายงานของคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ, คณะที่ 2 คณะอนุกรรมการ พิจารณาศึกษาแนวทาง และมาตรการ ในการพัฒนาระบบการป้องกัน และการปราบปรามการทุจริตประพฤติมอบ

“คณะกรรมการทั้ง 15 คน นอกจากจะเป็นสมาชิกสภาแล้ว ไม่มีเฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่างเดียว ยังมีผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน มีที่ปรึกษา นักวิชาการ อัยการ ทนายความ ตำรวจ เข้ามาร่วมงานจำนวนมาก เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหลายที่เกิดขึ้น ให้เกิดความรอบคอบ คณะกรรมาธิการก็ทำหน้าที่ในการที่จะรับปัญหาของพี่น้องประชาชนขึ้นมา นี่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลัก ทั้งนี้ มีเรื่องร้องเรียนจากทั่วประเทศมาที่กรรมาธิการ ประมาณ 200-300 เรื่อง ขณะนี้พิจารณาได้จำนวนหนึ่ง มีเรื่องค้างอยู่ ที่พี่น้องประชาชนรอให้กรรมาธิการได้พิจารณาอยู่จำนวนมาก ฉะนั้นกรรมาธิการ ได้ทำงานอย่างเข้มข้น เข้มแข็ง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนเบื้องต้น ตามอำนาจหน้าที่คณะกรรมาธิการ ทุกเรื่องส่วนใหญ่ เกิดเนื่องจากประเทศเรามีหน่วยงานที่เป็นหน่วยรับงบประมาณจำนวนมาก มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,000-8,000 แห่ง การใช้งบประมาณเพื่อจะให้เกิดความสุจริต เที่ยงธรรม เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน อาจจะมีการความบกพร่อง ผิดพลาดบ้าง และหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณคือสภาผู้แทน มีหน้าที่ในการอำนวยงบประมาณ ให้หน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ไปดำเนินการ ในเมื่อไปดำเนินการแล้ว ข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงานทั้งหลายที่รับผิดชอบ ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายก ก็เกิดความผิดพลาดบกพร่อง อาจจะจงใจหรือไม่จงใจก็แล้วแต่ สร้างความเสียหาย หรือผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ผลกระทบต่อส่วนรวมของประเทศก็มี เกิดปัญหาขึ้นมา ก็มีเรื่องร้องเรียนไปที่หลายหน่วยงาน”

ดร.ฉลาด กล่าวต่อไปอีกว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่างจาก ป.ป.ช. นั้น เป็นองค์กรอิสระ ตั้งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ของ กมธ.ป.ป.ช. ตั้งตามภารกิจของสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน หาข้อเท็จจริงอย่างอย่างเข้มข้นเหมือนกัน แต่ กมธ.ป.ป.ช. ไม่มีบทลงโทษโดยตรง ไม่เหมือน ป.ป.ช. องค์กรอิสระ กมธ.ป.ป.ช. มีเพียงหน้าที่สอบสวน สืบสวน หาข้อเท็จจริง รวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะให้คณะทำงานได้สรุปประเด็นต่างๆ ครอบคลุม หากเกี่ยวกับทุจริตจะส่งให้ ปชช. หรือ ป.ป.ท. ดำเนินการ ถ้าเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการประพฤติมิชอบ นอกจากส่งให้ ป.ป.ช. ก็ส่งให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบไป นอกจากนี้เรายังมีคณะติดตามผลว่าส่งไปแล้วมีการดำเนินการอย่างไร กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบแบบเปิดเผย เพราะว่าสภาผู้แทนฯ เวลาทำการสอบสวน ให้เปิดเผยต่อหน้าพี่น้องประชาชน ต่อหน้าสื่อมวลชนว่า เราไม่มีการปกปิด ว่าตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ฉะนั้น ในการประชุมแต่ละครั้ง ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ที่มาร้องเรียนก็ดี หัวหน้าหน่วยงานที่เชิญมาชี้แจงก็ดี ประชาชนสบายใจได้ว่าเราไม่มีอคติ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย กมธ.ป.ป.ช. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกคน เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย ถึงแม้ท่านมาจากที่ใดก็ตาม มาที่นี่ มาสภาที่ให้ความเป็นธรรม ตามอำนาจหน้าที่ ที่ กมธ.มีอยู่