สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ เพิ่มองค์กร 37 แห่ง ลงในรายชื่อนิติบุคคลตามกฎหมายป้องกันแรงงานบังคับชาวอุยกูร์ (ยูเอฟแอลพีเอ) ส่งผลให้จำนวนรวมอยู่ที่เกือบ 150 แห่ง ซึ่งสินค้าทั้งหมดหรือบางส่วนที่ผลิตโดยบริษัทเหล่านี้ จะถูกจำกัดไม่ให้เข้าสู่สหรัฐ
“จากการดำเนินการดังกล่าว เราได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงการต่อสู้อย่างไม่ลดละ เพื่อต่อต้านความโหดร้ายของแรงงานบังคับ รวมถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ตลอดจนการปกป้องตลาดที่เสรี ยุติธรรม และมีการแข่งขัน อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” นายอเลฮันโดร มายอร์กาส รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กล่าว
U.S. bans imports from 37 more Chinese companies over Uyghur forced labor https://t.co/zCK8gWSLpN
— Nikkei Asia (@NikkeiAsia) January 14, 2025
ทั้งนี้ หน่วยงานที่ถูกเพิ่มลงในรายชื่อ มีทั้งบริษัททำเหมืองและแปรรูปแร่ธาตุสำคัญ, บริษัทปลูกฝ้ายและผลิตสิ่งทอสำหรับการส่งออกทั่วโลก และบริษัทผลิตปัจจัยนำเข้าสำหรับโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ โดยบริษัททุกแห่งล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ทำให้รัฐบาลปักกิ่งถูกกล่าวหาว่า คุมขังชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมมากกว่า 1 ล้านคน ในเครือข่ายสถานกักกัน
แม้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ ระบุว่า บริษัทที่ถูกเพิ่มลงในรายชื่อ มีความเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานบังคับ แต่เจ้าหน้าที่รัฐของจีน ปฏิเสธข้อกล่าวหาข้างต้นอย่างหนักแน่น.
เครดิตภาพ : AFP