สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าหลังเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารบอมบาเดียร์ ซีอาร์เจ-700 ของสายการบินอเมริกัน อีเกิล เที่ยวบิน 5342 ซึ่งเป็นสายการบินท้องถิ่นในเครืออเมริกัน แอร์ไลน์ส ประสบเหตุชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐ เหนือแม่น้ำโพโทแมก ในกรุงวอชิงตัน เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

หน้าจอระงับให้บริการ เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ที่ท่าอากาศยานนานาชาติโรนัลด์ เรแกน ในกรุงวอชิงตัน


สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) ออกแถลงการณ์เพิ่มเติม เกี่ยวกับการปิดรันเวย์ของท่าอากาศยานนาชาติโรนัลด์ เรแกน ที่ตั้งอยู่ชานกรุงวอชิงตัน จนถึงช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 30 ม.ค. นี้ “เป็นอย่างน้อย” และยืนยันว่า มีการประสานความร่วมมืออย่างเต็มที่ระหว่างหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งค้นหาผู้สูญหาย


จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังปฏิเสธเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิต แต่ยืนยันว่า “ยังไม่พบผู้รอดชีวิต” ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากแม่น้ำแล้ว อย่างน้อย 18 ราย

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงกลาโหม ยืนยันการมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานกู้ภัย


ทั้งนี้ เที่ยวบินของอเมริกัน อีเกิล เดินทางมาจากเมืองวิชิตา ในรัฐแคนซัส มุ่งหน้ากรุงวอชิงตัน พร้อมผู้โดยสาร 60 คน และลูกเรือ 4 คน ส่วนเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐ มีเจ้าหน้าที่ 3 นาย อยู่ระหว่างการฝึกซ้อม โดยเดินทางมาจากค่ายทหารฟอร์ต เบลวอร์ ในรัฐเวอร์จิเนีย


อนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมจากเครื่องบินพาณิชย์ ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 16 ปีของสหรัฐ นับตั้งแต่เหตุเที่ยวบิน 3407 ของโคลแกน แอร์ ในเครือคอนติเนนทัล แอร์ไลน์ส ตกใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติบัฟฟาโล ในรัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2552 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 ราย.

เครดิตภาพ : AFP