เรียกได้ว่าเริ่มต้นปีก็เจอกระแสดราม่าไม่พักเลย สำหรับคู่จิ้นชื่อดัง “หลิงหลิง คอง” และ “ออม กรณ์นภัส” หลังที่ได้ไปร่วมงานอีเวนต์ตรุษจีนงานหนึ่ง แล้วมีจังหวะที่ทั้งสองคนต้องถ่ายภาพร่วมกันบนเวที พร้อมกับผู้บริหาร ผู้จัดงานและผู้สนับสนุน โดยมีช่วงหนึ่งที่มีทีมงานได้เดินมาดันหลิงหลิง ออกไปจากเฟรมเพื่อเว้นที่ไว้ให้กับใครอีกคน ซึ่งจังหวะที่ดันตัวหลิงหลิงออกไป เธอก็เซไปกระทบกับออมที่ยืนต่อกัน ทำให้สาวออมเสียหลักก่อนจะใช้สายตามองทีมงานคนดังกล่าว ซึ่งหลายคนมองว่าสาวออมมองแรงและไม่น่ารักในการกระทำแบบนี้ จึงทำให้หลายคนพากันต่อว่าเธอ และแฟนๆของเธอก็ออกมาโต้กลับพร้อมบอกว่าน้องไม่ได้ทำแบบนั้น ทำให้มีดราม่าสองฝั่งตามมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทัวร์มาเยือน! “หลิง-ออม”ปมใช้สายตามองแรงทีมงาน เอฟซีป้องซัดกันเดือดผ่านโลกออนไลน์

ล่าสุด หลิงหลิง-ออม ได้เดินทางมาร่วมงาน “Pantene Miracle Bond Repair X LingOrm” ในฐานะ PANTENE THAILAND PRESENTER ทั้งคู่ได้เปิดใจและชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นร้อนที่กระฉ่อนว่อนโซเชียล จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์แตกเป็นสองฝ่าย

ออม เผยว่า “สำหรับเรื่องที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียล ณ ตอนนี้ คือเรื่องมันไม่มีอะไรเลย หนูก็มอง พอเห็นพี่หลิงเขยิบมา สักพักหนึ่งหนูก็มองอีก ยืนถูกจุดมาร์คไหมนะ แค่นั้นเลย พอเห็นคลิปยังตกใจอยู่เลย ตาดุมากๆ แต่ก็รอวันนี้ว่าจะชี้แจงทุกคนว่ามันเป็นอย่างนี้นะคะ หนูเป็นคนใจดีนะคะ ทุกคนใจเย็นๆ มันไม่ใช่การมองแรงนะคะทุกคน มันคือการงง ตอนที่ออมยืนอยู่ตอนนั้นแทบไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ จนมาเห็นคลิป ถึงมารู้ว่าสายตาที่ออกมามันเป็นแบบนั้น แบบอุ๊ย น่ากลัวมากๆ เลย แต่ไม่มีใครผลักใคร ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะไม่ได้รู้สึกว่าโดนผลัก ไม่ได้รู้สึกว่าเซเท่าไหร่เลย ซึ่งพอเราเห็นคอมเมนต์ คือฟังนะ คอมเมนต์แรงมาก อ่านแล้ว คือตอนอ่านนั่งอยู่กับพี่ช่างผมพอดี ก็นอยด์ว่าทำไมคนเขามองเราแบบนั้น ทำไมคนถึงตัดสินคนคนหนึ่งจากคลิปไม่ถึง 5 วินาทีด้วยซ้ำ ก็อยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินใครถ้าเราไม่ได้รู้จักเขาจริงๆ แล้วก็สิ่งที่พิมพ์ลงโซเชียลก็อยากให้คำนึงไว้เสมอว่ามันจะมีคนเห็นเสมอ คุณพิมพ์แล้วคุณลืมแต่คนที่อ่านมันอยู่ข้างในตลอด ถามว่าคอมเมนต์ไหนที่ไม่ไม่สบายใจ คือมันมีหลายคอมเมนต์หนูอ่านอันแรกพอทน อันสามพอเลย ถามว่ามันบั่นทอนไหม หนูแข็งแกร่ง แล้วหนูมีเพื่อนหนูมีพ่อแม่ มีพี่พี่ทีมงานที่รู้อยู่แล้วว่าหนูเป็นคนยังไง คนที่ทำงานกับหนูเพื่อนหนูอาจารย์ พี่หลิง รู้อยู่แล้วว่าหนูเป็นคนยังไง หนูก็ไม่กลัวอยู่แล้ว ครั้งนี้มันให้ประสบการณ์เรานะ ก็บอกว่าทำตาซอฟต์ๆหน่อย หนูจะเม้าธ์ให้ฟัง ว่าตอนนั้น หนูตื่นเต้นมาก เพราะว่าก่อนหน้าหนูเดินแบบมันต้องสะบัดกระโปรง แต่นอยด์สะบัดกระโปรงไม่ขึ้นยังไม่หายตื่นเต้นเลย แล้ววินาทีต่อจากที่หนูมองแรงอ่ะ หนูยังบ๊ายบายพี่ๆแฟนคลับ หนูก็ไม่รู้เจตนาคนที่ตัดมาเหมือนกันว่าเขาต้องการอะไร เราต้องซ้อมกระจกก่อนออกจากบ้าน ทำตาหวาน คือไม่มีอะไรไม่ได้คิดมาก ก็คิดแค่คืนเดียวแล้วก็หายแล้ว”

หลิงหลิง เผยว่า “วันนั้นเหตุการณ์มันก็คือตอนนั้นกำลังจะถ่ายภาพกับผู้บริหาร คือพี่เขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย เชื่อยังงั้นแล้วหลิงก็อาจจะขยับตัวแรงไปชนน้องออมก็ไม่ได้ตั้งใจ คือทีมงานก็คือทำหน้าที่ของทีมงานนั่นแหละไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรือใดใด ส่วนน้องก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพราะว่าน้องออมเองก็เป็นเด็กน่ารักสำหรับเรา ก็อาจจะมีกังวลเรื่องการแสดงนิดๆหน่อยๆ จริงๆอ่ะเข้าใจทั้งสองฝ่ายเลยทั้งฝ่ายที่เขาเอ็นดูเรา หรือทั้งฝ่ายที่มีมุมมองเห็นตามคลิป เพราะว่าในคลิปก็มองได้หลายแบบ ถ้าพี่เขาเห็นคอมเมนต์หรือว่ามันกระทบพี่เขา คือพวกเราก็ขอโทษด้วยไม่ได้มีเจตนาไม่ดี คือหลิงเข้าใจทุกฝ่ายเลย เพราะว่าคลิปอ่ะมันมองได้หลายมุมมาก หลิงเข้าใจพี่มากด้วยที่เขาทำตามหน้าที่”


ออม เผยต่อว่า “ส่วนหลังจากเกิดเรื่องดังกล่าวทางทีมงานมีติดต่อไหม คือไม่ต้องติดต่อ ก็ได้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นหลังบ้านรักกันดีค่ะทุกท่าน พี่ๆสต๊าฟอะไรเราก็ปกติกัน ไม่ได้อะไรเราเลยด้วยค่ะ หลังจากนี้ออกงานก็อาจจะเกร็ง อาจจะโดนจับจ้องมากกว่าเดิม แล้วเมื่อกี้คือกลัวมาก คือยืนอย่างมั่นเลยนะ ใครห้ามมาเซนะ ยืนมั่นเลยเมื่อตะกี้นี้ เวลาเหมือนเราไปอยู่ในที่ๆมันมีแสงอ่ะเราจะต้องยอมรับว่ามันก็จะมีหลายๆอย่างถาโถมเข้ามาก็ระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าค่ะ ไม่ใช่ระแวง แต่ว่าเราก็จะตั้งใจและพยายามระวังตัวให้มากที่สุดเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก linglingkwong , orm.kornnaphat