ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นดราม่าเรื่องการตัดไฟในพื้นที่ปอยเปต ได้กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดยประชาชนต่างออกมาเรียกร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ช่วยร่วมมือยับยั้งอาชญากรรมเทคโนโลยีอย่างจริงจัง และร้องให้มีการตัดสัญญาณเครือข่ายมือถือของไทยทั้งหมด หลังจากพบว่าสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตของไทย ถูกนำไปขายฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมีการโฆษณาเกลื่อนในเฟซบุ๊ก
ความคืบหน้าล่าสุดบนโลกออนไลน์ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง หลังพบว่าในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก มีการตั้งกลุ่มซื้อขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น มีการปล่อยเช่าออฟฟิศและการันตีมีสัญณาณไทย แถมมีรถรับส่งกาสิโนดัง
โดยในกลุ่มค้าขายในปอยเปต และกลุ่มคนไทยในปอยเปต มีบัญชีผู้ใช้ลักษณะคล้ายนายหน้าจำนวนมาก คอยออกมาโพสต์ปล่อยเช่าตึกออฟฟิศที่มีความสูงตั้งแต่ 10 ชั้นขึ้นไป ซ้ำการันตีความปลอดภัย ใกล้ด่านติดชายแดนไทย มีสัญญาณไทยทุกเครือข่าย และที่สำคัญมีเครื่องปั่นไฟให้ใช้
ซึ่งราคาเช่าที่เหล่านายหน้ามักเอามาจัดโปร ส่วนใหญ่เริ่มต้นตั้งแต่ตารางเมตรละ 1,500 บาท หาก 200 ตารางเมตรขึ้นไป 1,300 บาท อินเทอร์เน็ตไทยเมกละ 3,000 บาท กัมพูชาเมกละ 2,500 บาท ค่าไฟหน่วยละ 10 บาท น้ำมีให้ใช้ฟรี
ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอีกครั้ง โดยชาวเน็ตต่างมองว่าทำไมทางการฝั่งไทยถึงไม่สามารถหยุดหรือยับยั้งได้เลย เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงเป็นภัยร้ายที่สร้างความเสียหายต่อสังคม หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทั้งด้านการป้องกันและปราบปราม พร้อมให้ความรู้แก่ประชาชน จะช่วยลดจำนวนเหยื่อและสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วย…