เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.พ. 68 ที่ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาฆ่า 3 ศพ พ่อแม่ลูก โดย พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยว่า หลังทราบเหตุ ทางตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถติดตามจับกุมนายศิวกร หรือโน๊ต ไว้ได้ สำหรับมูลเหตุ ผู้ต้องหารับว่า เกิดจาก นายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตาย เคยตกลงยินยอมจะให้นายโน๊ต กู้เงิน 1 แสนบาท เพื่อที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อโดรนการเกษตร เนื่องจากนายโน๊ต มีอาชีพขับโดรนการเกษตร ซึ่งทางนายโน๊ต ได้นำโดรนเก่าไปตีเทิร์นกับทางร้าน โดยวางมัดจำ 7 หมื่นบาท และทำสัญญาจะหาเงินที่เหลืออีก 1 แสน 5 หมื่นบาท มาซื้อคืน ต่อมานายวงศกร ผู้ตายเปลี่ยนใจไม่ให้กู้ยืม ทำให้นายโน๊ต เกิดความเสียหาย จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวต่อว่า หากไล่เรียงจากไทมไลน์จากคำให้การของ นายโน๊ต ในวันเกิดเหตุ ได้มีการนัดผู้ตายไปเคลียร์เรื่องเงิน โดยให้ผู้ตายไปรับที่บ้าน นั่งรถไปด้วยกัน ขับรถไปเรื่อยๆ ก่อนจะจอดรถลงไปเคลียร์กันนอกรถ จนมีปากเสียงกัน ก่อนนายโน๊ต ชักปืนยิงไป 1 นัด จนเสียชีวิต โดยอ้างว่าใช้ปืนที่เคยไปจำนำกับผู้ตาย มาใช้ก่อเหตุ ก่อนจะโทรฯ หานายเข้ มาช่วยเหลือยกร่างผู้ตาย มาไว้ที่หลังรถ จากนั้นนายโน๊ต ได้ขึ้นไปนั่งขับรถ โดยมี น.ส.แจง เมียและลูกชายของผู้ตาย นั่งอยู่เบาะข้างๆ คนขับ

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า หลังจากขับรถไป ได้เกิดการต่อสู้แย่งปืนกันขึ้น แล้วปืนเกิดลั่นถูกเด็กชาย 7 ขวบ กระสุนทะลุเข้าตาไปโดนกระจกรถ ซึ่งนายโน๊ต บอกว่า ตอนนั้นโกรธจัด จึงยิง น.ส.แจง เสียชีวิตด้วย จากนั้นนำศพทั้ง 3 คน ไปหาที่อำพรางศพ ก่อนจะให้ญาติมารับหลบหนีไป พร้อมนำทรัพย์สินสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ไปขายต่อที่ร้านทองในพื้นที่ อ.คลองขลุง และนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้ และไปใช้ส่วนตัว พร้อมพยายามอำพราง โดยส่งข้อความไปหาญาติ ว่าให้ถอนแจ้งความ แล้วตระเวนหาผ้าคลุมรถที่ห้างสรรพสินค้ามาคลุมรถเพื่ออำพราง ซึ่งก็ยังอ้างว่าไปซื้อคนเดียว ส่วนประเด็นในวงแชร์เมื่อปี 66 ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่าไม่มีมูลเหตุเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา/ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ/ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน/ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต/ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต.