เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ จ.สุราษฎร์ ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายอรรถสิทธิ์ อุ้ยเกษมสุข อายุ 31 ปี ชาว ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.255/2567 คดีค้ายาเสพติดและคดีอื่นๆในท้องที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.พัทลุง รวม 4 คดีถูกจับที่ประเทศเมียนมา ได้หลบหนีการควบคุมตัวของตำรวจกองปราบปราม จากรถไฟขบวน 169 สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ – ยะลา เมื่อเวลา 03.30 น.ช่วงสถานีรถไฟท่าชนะ-สถานีรถไฟไชยา ระหว่างจะนำไปส่งดำเนินคดีที่สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง
ระหว่างหลบหนีได้ขโมยเสื้อและรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.วัง อ.ท่าชนะ ที่จอดเสียบกุญแจทิ้งไว้ขับหลบหนีได้ 3 กิโลเมตรน้ำมันหมดไปจอดทิ้งที่บ้านในเขา หมู่ที่ 1 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ และเดินมุ่งหน้าไปทางถนนตอนบน สายสัมพันธ์ มัสยิดดอนมะกอก หมู่ที่ 2 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ โดยระดมกำลังตำรวจหลายหน่วย ร่วมค้นหา นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.พ.ต.อ.ชุติพล เขมานุวงศ์ ผกก.สภ. ท่าชนะ ได้ระดมชุดไล่ล่า ตำรวจ สภ.ท่าชนะ ตชด. 434 พัทลุง ร่วมกับ ตชด.417 สุราษฎร์ธานี และฝ่ายปกครอง อ.ท่าชนะ สามารถจับกุมนายอรรถสิทธิ์ หรือต้น ได้ในสวนยาง ท้องที่บ้านหนองเหรียง หมู่ที่ 6 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ โดยได้เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีเขียวเป็นตัวที่ 2 จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าชนะ ซึ่งใช้เวลาหลบหนีร่วม 14 ชั่วโมง
เบื้องต้นนายอรรถสิทธิ์ ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ได้ใช้ลวดผ้าม่านบนรถไฟสะเดาะกุญแจมือหลุดและนอนรอแอบดูจนสบโอกาสเห็นตำรวจหลับ กระทั่งช่วงประมาณ 03.00 น.ขบวนรถไฟได้ชะลอความเร็วที่มีการก่อสร้างเส้นทางบริเวณบ้านเกาะมุกด์ ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จึงกระโดดหนีลงจากรถไฟเดินลัดเลาะจะหาทางไปออกถนนทางหลวงเอเชีย 41
นายอรรถสิทธิ์ ยังให้การอีกว่า ได้หลบหนีคดียาเสพติดไปอยู่ฝั่งจังหวัดเมียวดีของเมียนมา เมื่อถูกหม่อง ชิตตู ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) สั่งกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตนมีหมายจับคดีอยู่จึงถูกผลักดันส่งตัวให้ทางการไทย เมื่อมาถึงก็ถูกตรวจสอบเมื่อพบหมายจับก็ควบคุมตัวส่งตัวกลับไป จ.พัทลุง
ข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้า หลังกระโดดหนีจากขบวนรถไฟนายอรรถสิทธิ์ ได้เข้าไปที่วัดมัชฌิมาราม ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ ขอเงินพระลูกวัดเพื่อจะนั่งรถกลับ จ.พัทลุง พร้อมจะขอเลขบัญชีของพระ เพื่อให้ญาติโอนเงินคืนให้แต่พระไม่มีเงิน จึงได้ขอยืมโทรศัพท์โทรหาญาติและนัดแนะมารับ ก่อนจะสบโอกาสขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน แต่รถคันดังกล่าวน้ำมันหมดไปต่อไม่ได้ จึงได้ใช้วิธีเดินลัดเลาะไปตามสวนของชาวบ้านและถูกจับกุมได้ในที่สุด