นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ทั้ง 2 โครงการ โดยโครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร (กม.) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้าง มีความก้าวหน้า 87.06% โดยสัญญาที่ 1 งานสร้างทางยกระดับจากแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เซ็นทรัลพระราม 2 ระยะทาง 6.4 กม. คืบหน้า 81.70% สัญญาที่ 2 งานสร้างทางยกระดับจากเซ็นทรัลพระราม 2-รพ.บางปะกอก 9 ระยะทาง 5.3 กม. คืบหน้า 94.72%

สัญญาที่ 3 งานสร้างทางยกระดับจาก รพ.บางปะกอก 9-ด่านดาวคะนอง ระยะทาง 5 กม. คืบหน้า 83.78% สัญญาที่ 4 สะพานขึงคู่ขนานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดให้บริการแล้ว และสัญญาที่ 5 งานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบควบคุมจราจร และระบบสื่อสาร อยู่ระหว่างเตรียมประมูลหาผู้รับจ้าง โดยทุกสัญญาดำเนินการเร็วกว่าแผน ซึ่ง กทพ. ได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ โดยเพิ่มกำลังคน และเครื่องจักร เพื่อให้สามารถก่อสร้างได้ตามแผน ซึ่งได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย และต้องไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ทางเด็ดขาด คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ ภายในเดือน พ.ย. 68 และจะพิจารณาแนวทางในการเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในปี 2568 ต่อไป
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กม. ของกรมทางหลวง (ทล.) ซึ่งขณะนี้ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย 3 สัญญา มีความคืบหน้า 98.42% และช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว 10 สัญญา มีความคืบหน้า 70.60% คาดว่างานโยธาจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย. 68 ส่วนงานระบบปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการงานด้านระบบประมาณช่วงปลายปี 2568-ต้นปี 2569 แล้วเสร็จปลายปี 2570 และเปิดบริการแบบเก็บค่าผ่านทางในปี 2571 อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ดำเนินการงานระบบประมาณ 2 ปี จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการโดยไม่คิดค่าผ่านทาง

ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดี ทล. กล่าวว่า การก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ M82 มีความคืบหน้าดังนี้ ช่วงแยกต่างระดับ บางขุนเทียน-เอกชัย สัญญาที่ 1 คืบหน้า 98.13% คาดแล้วเสร็จเดือน มี.ค. 68, สัญญาที่ 2 คืบหน้า 98.41% คาดแล้วเสร็จเดือน ก.พ. 68, สัญญาที่ 3 คืบหน้า 98.73% คาดแล้วเสร็จเดือน ก.พ. 68 สำหรับช่วง เอกชัย-บ้านแพ้ว สัญญาที่ 1 คืบหน้า 78.66% คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 68, สัญญาที่ 2 คืบหน้า 73.44% คาดแล้วเสร็จเดือน ส.ค. 68, สัญญาที่ 3 คืบหน้า 77.21% คาดแล้วเสร็จเดือน ส.ค. 68, สัญญาที่ 4 คืบหน้า 55.53% คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 68,
สัญญาที่ 5 คืบหน้า 82.96% คาดแล้วเสร็จเดือน ส.ค. 68, สัญญาที่ 6 คืบหน้า 54.84% คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 68, สัญญาที่ 7 คืบหน้า 45.94% คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 68, สัญญาที่ 8 คืบหน้า 77.98% คาดแล้วเสร็จเดือน ส.ค. 68, สัญญาที่ 9 คืบหน้า 87.78% คาดแล้วเสร็จเดือน ส.ค. 68, สัญญาที่ 10 คืบหน้า 71.65% คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 68 และโครงการบ้านแพ้ว คืบหน้า 80.93% คาดแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 68

นายอภิรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอุบัติเหตุคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ถล่ม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 67 ขณะนี้ยังคงดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มุ่งเน้นวิเคราะห์ข้อมูลทางวิศวกรรมอย่างละเอียดรอบด้าน พิจารณาจากหลักฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค การให้ถ้อยคำของพยานบุคคลในช่วงเวลาเกิดเหตุ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประการ ได้แก่ 1. ภาวะไม่ปลอดภัยที่ตัวโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) และ 2. การกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่มาจากการควบคุมการทำงานโดยบุคคล ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการฯ ได้สรุปเบื้องต้นแล้วว่า เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่มาจากการควบคุมการทำงานโดยบุคคล ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม จึงขอขยายระยะเวลาการสรุปผลออกไป คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายใน 1 เดือนนี้ เพื่อให้ผลการสอบสวนมีความถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน.