ตามที่ได้มีการแชร์ภาพ สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปัญญาวุโธ) เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง เจ้าคณะใหญ่หนใต้ กำลังนั่งรอรถไปอยู่ที่สถานีพัทลุง เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปปฏิบัติศาสนกิจที่วัดสามพระยา ในการอบรมพระอุปัชฌาย์ประจำปี 2568 ทำให้พุทธศาสนิกชนต่างมาชื่นชมในวัตรปฏิบัติที่สมถะ เรียบง่ายของพระมหาเถระ แม้จะเป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะ แต่นั่งรถไฟเดินทางไกลมาจากพัทลุงเพื่อเข้ากรุงเทพฯ นั้น

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว โดยเฟซบุ๊กพระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เจ้าคณะภาค 17 เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ ได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุว่า สมเด็จฯ หนใต้ เดินทางมาถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในเวลา 08.10 น.


ทั้งนี้ การเดินทางด้วยรถไฟของสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เพื่อปฏิบัติศาสนกิจในการอบรมพระอุปัชฌาย์ที่วัดสามพระยา กรุงเทพฯ นั้น ท่านปฏิบัติเป็นประจำทุกปี และนอกจากนี้ สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ แม้ว่าจะเป็นพระมหาเถระที่มีอายุถึง 96 ปี แต่ยังคงกวาดลานวัด ล้างจาน ใช้คอมพิวเตอร์ทำเอกสารด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำด้วย

สำหรับประวัติ สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ท่านมีนามเดิมว่า สงัด ลิ่มไทย เกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2471 ที่บ้านหนองไทร ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้น ป.4 จากโรงเรียนเพาะปัญญา พ.ศ. 2483 บรรพชาที่วัดมงคลสถาน อ.นาโยง จ.ตรัง มีพระครูวิบูลย์ศีลวัตร (แดง) วัดนิคมประทีป อ.เมือง จ.ตรัง เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้น ย้ายมาอยู่ที่วัดจอมไตร อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2486 สอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ. 2487 สอบนักธรรมชั้นโท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนวัดควนวิเศษ อ.เมือง จ.ตรัง ต่อมาย้ายไปที่วัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง เพื่อเรียนบาลี จนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

พ.ศ. 2491 เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดจอมไตร อ.นาโยง จ.ตรัง มีพระครูสังวรโกวิท เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิบูลธรรมสาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระผุด มหาวีโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พ.ศ. 2492-2494 สอบได้เปรียญธรรม 4, 5, 6 ตามลำดับ ย้ายมาอยู่ที่วัดกะพังสุรินทร์ พ.ศ. 2504 สอบเปรียญธรรม 7 ประโยค ทั้งได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ในยุคนั้น มอบหมายภารกิจสนองงานเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมายจน พ.ศ. 2505 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พ.ศ. 2514 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านโพธิ์ พ.ศ. 2527 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดตรัง พ.ศ. 2541 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะภาค 18 พ.ศ. 2550 เป็นเจ้าคณะใหญ่หนใต้ พ.ศ. 2562 เป็นที่ปรึกษามหาเถรสมาคม
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. 2516 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปิฎกคุณาภรณ์ พ.ศ. 2527 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติยาภรณ์ พ.ศ. 2536 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิมลเมธี พ.ศ. 2541 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนากร พ.ศ. 2550 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมจริยาจารย์ พ.ศ. 2565 เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ ในราชทินนามที่ สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์