เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีเหตุการณ์อาคารถล่ม ซึ่งบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วมในการก่อสร้างนั้น ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยต่อบริษัทจีนในประเทศไทย ว่า ความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างจีน-ไทยมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาของทั้งสองประเทศ และนำความสุขมาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งความร่วมมือด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นส่วนสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย เมื่อไม่นานมานี้ อาคารที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วมในการก่อสร้างนั้น ได้ถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ได้รับการจับตามองอย่างกว้างขวางจากสังคมไทย และรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการถล่มดังกล่าว ทั้งนี้ กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) ซึ่งบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วม ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณชนโดยยืนยันว่า การจัดซื้อวัสดุและการก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้ดำเนินการตามข้อกำหนดในสัญญาโครงการ (ทีโออาร์) กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานทางวิศวกรรม และหลักปฏิบัติทางวิศวกรรมที่ดีอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของโครงการ ซึ่งขณะนี้ กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) กำลังให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลไทยในการสอบสวน และเชื่อว่าผลการสอบสวนจะให้ข้อสรุปที่เป็นวิทยาศาสตร์และยุติธรรม
โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทจีนจำนวนมากได้ตอบรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทย และเข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งได้นำมาซึ่งโอกาสการจ้างงานหลายแสนตำแหน่ง ฝึกอบรมบุคลากรด้านเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นจำนวนมาก และมีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและสร้างรายได้ภาษีกับประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทจีนเหล่านี้ยังมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแข็งขัน ทั้งด้านการช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติและดำเนินกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ทางสังคม อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจีนสนับสนุนให้มีการตรวจสอบและดำเนินคดีกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบางบริษัทตามกฎหมาย แต่คัดค้านการใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนข้อเท็จจริงกับบริษัทจีน