จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความ และคลิปเหตุการณ์ ถูกชายทำร้ายหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยเลี่ยงเมืองนนทบุรี 10 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี เหตุเกิดวันที่ 18 เม.ย. 68 เวลา 22.24 น.

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.ขวัญชนก อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย อาชีพพีซี ฟรีแลนซ์ เปิดเผยว่า ตนกับคนก่อเหตุไม่ได้เป็นแฟนหรือเป็นอดีตสามี เพียงแต่เป็นคนเช่าห้องพักที่เดียวกันเท่านั้น และผู้ก่อเหตุเห็นว่าตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่มีสามี คนก่อเหตุจึงพยายามเข้ามาพูดคุยแต่ตนไม่เล่นด้วย เพราะว่ามีลูกที่ต้องดูแล 3 คน โดยเรื่องราวเกิดขึ้นครั้งแรกช่วงประมาณเดือน ธ.ค. 67 นายหนึ่ง ผู้ก่อเหตุได้เปิดประตูห้องพักของตนเข้ามา ขณะลูกสาวคนเล็กอายุ 9 ขวบ นอนหลับอยู่ และบางครั้งก็เข้ามากอดลูกสาว ซึ่งตนเชื่อว่าเขาน่าจะทำแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. แต่ตนเพิ่งจะมารู้เรื่องจากปากลูกสาว เพราะนายหนึ่ง ได้ข่มขู่ลูกสาวว่าไม่ให้ไปบอกใคร หากบอกจะฆ่าให้ตาย

น.ส.ขวัญชนก กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 67 ก่อนจะตกลงค่าเสียหาย จำนวน 10,000 บาท แต่ต่อรองจนเหลือ 6,000 บาท แบ่งชำระ 2 งวด งวดละ 3,000 บาท และได้มีการลงบันทึกประจำวันว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีก หลังจากนั้นนายหนึ่ง ก็มาพูดจาหาเรื่องตลอด บางวันเขานั่งดื่มเหล้ากันกับพวกเขา ก็จะส่งเสียงดังและพูดด่าทอให้ตนได้ยิน

น.ส.ขวัญชนก กล่าวอีกว่า จนกระทั่งวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกลับจากพาลูกไปเล่นสงกรานต์ พบนายหนึ่งกำลังนั่งดื่มเหล้ากับพรรคพวกที่หน้าห้องเช่า ขณะที่ตนกำลังจะเดินขึ้นห้องพัก ได้ถูกนายหนึ่ง ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และปาเก้าอี้ใส่ จากนั้นนายหนึ่ง ได้เข้ามาลากตนไปทำร้ายร่างกายตรงที่ทิ้งขยะหน้าห้องเช่า ด้วยการตบตี พอตนล้มลง นายหนึ่ง ได้ขึ้นคร่อมที่ตัวและพยายามจับหัวโขกกับพื้นถนน ตนแข็งใจใช้มือข่วนไปที่หน้านายหนึ่งเพื่อให้เขาปล่อย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย จนลูกๆ เห็นว่าแม่ถูกทำร้ายจึงได้เข้ามาช่วยและพูดขอร้องว่าอย่าทำแม่ แต่นายหนึ่ง ก็ยังไม่ปล่อย

“ตอนนั้นคิดว่า จะต้องไม่ตาย เพราะมีลูกที่ต้องดูแล จึงรวบรวมสติกัดไปที่หัวไหล่ ถึงได้ยอมปล่อย หลังจากนั้นจึงพาลูกออกไปขอความช่วยเหลือที่ร้านค้าด้านนอกห้องพัก และโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ สักพักตำรวจสายตรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้ามาระงับเหตุ แต่นายหนึ่ง ยังโวยวายด่าทอไม่หยุด ตำรวจจึงให้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ตอนนี้เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อขอความช่วยเหลือและได้ทำเรื่องย้ายออกจากที่พัก เพื่อไปอยู่ที่ใหม่ กลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก ทุกวันนี้เวลาออกไปทำงานต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา กลายเป็นคนจิตตกไปแล้ว” น.ส.ขวัญชนก กล่าว.