ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนความหวานก็ไม่จางเลย สำหรับ “แก้มบุ๋ม ปรียาดา” และ “พีท กันตพร” ที่แม้จะแต่งงานกันมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ความหวานกลับยิ่งเพิ่มจนแฟนๆ พากันฟินปนอิจฉาหนักมากเลย ซึ่งในวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบสมรสพระราชทานก็เลยโชว์โมเมนต์หวานๆอวดแฟนๆ 1 แมตช์
ล่าสุด ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ Thailand LIVE for LIFE แก้มบุ๋มและพีท ได้มาร่วมงานพร้อมทั้งเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงชีวิตคู่หลังแต่งงาน โดยแก้มบุ๋ม เผยว่า
“ความแตกต่างระหว่างการแต่งงานกับเป็นแฟนต่างกันนิดเดียว แค่ว่าเราได้อยู่ด้วยกันที่เหลือเหมือนหมดเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ตอนนี้สามีเขาเริ่มมาทำงานแย่งอาชีพหนูแล้วหนูว่าแปลกๆ เขาพูดจนไม่เหลือช่องว่างให้หนูพูด แต่ว่าก็ดีเหมือนมีเพื่อนคู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในการทำงานส่วนใหญ่ตอนนี้งานหลังบ้านจะเป็นเขาที่เริ่มดูแล เราก็สบายบางทีเราก็เดินหาออกจากไลฟ์ไปเลยให้เขาขายไปเราไปพักผ่อน หนูรู้สึกว่าเขาพูดเก่งอยู่แล้ว แต่เพียงอาจจะไม่ได้เปิดหรือมีช่องทางในการออกมาแสดงศักยภาพในด้านนี้ตัวหนูก็แค่ไปเปิดให้เขากล้าที่จะทำมากกว่า สำหรับการเซอร์ไพร้ส์หนูว่าพอแต่งงานแล้วทุกอย่างอาจจะราบเรียบก็ได้ ไม่นั้นมันก็จะต้องเซอร์ไพร้ส์กันไปทุกปีแต่ถ้าเซอร์ไพร้ส์ก็ดีขอบคุณมากๆ ของขวัญครบรอบหนึ่งปีของหนูก็เซอร์ไพร้ส์เหมือนกันค่ะให้ทองก็ไม่ติดนะคะเก็บไว้ขายในอนาคตได้ ถามว่าอยู่ด้วยกันแล้วตื่นมาเจอกันทุกวันเป็นยังไงสำหรับหนู หนูนอนไม่ค่อยหลับเพราะว่าเขาเป็นคนนอนเร็ว แล้วหนูจะต้องใส่หูฟังไว้พยายามเปิดคลิปไถฟีด เพื่อให้ตัวเองหลับแต่เขาเหมือนเกินมามีบุญมากหัวถึงหมอนปุ๊บหลับเลย เรา 2 ชั่วโมงก็แล้วก็ยังไม่หลับ ก็เลยตื่นมาอีกทีเขาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“สำหรับเรื่องการมีลูกอย่างที่หนูบอกเราพยายามจะไปทางวิทยาศาสตร์มากกว่า ไม่ได้ทำธรรมชาติเพราะว่าด้วยอายุแล้วก็การทำงานแต่ละคนทำงานหนัก หนูรู้สึกว่าพึ่งวิทยาศาสตร์น่าจะดีกว่า ฮอร์โมนหนูผิดปกติมานานแล้ว อารมณ์หรือสวิงขึ้นสวิงลง น่าจะไม่ปกติแหละเราเป็นไทรอยด์ด้วยอะไรด้วย มันก็น่าจะไม่ปกติอยู่แล้วก็ต้องไปพบแพทย์ คุยกับแพทย์ปรึกษาเรื่องให้ระบบไทรอยด์ มันสมดุลย์ ยากอยู่หลายอย่างหลายขั้นตอน”
พีท เผยว่า “ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาชีวิตที่สงบสุขของผมหายไปเลย แต่ว่ามันเป็นความวุ่นวายที่ดี เป็นความวุ่นวายในชีวิตที่มีมีความสุขในทุกวัน อย่างที่ผมบอก ตั้งแต่วันแรกว่ากลับบ้านมาก็จะต้องคิดว่าวันนี้จะเจอว่าเขาทำอะไร ซึ่งมันก็ยังเป็นแบบนั้น บางวันก็แต่งตัวเป็นอะไรไม่รู้รอเรากลับบ้าน หนึ่งปีก็มีความสุขทุกวัน มันไม่ได้มีวันที่มากขึ้นหรือน้อยลง เราเป็นคู่ที่ค่อนข้างจะราบเรียบและไปเรื่อยๆ ที่ผมไลฟ์ขายของเก่งขนาดนี้ได้ก็เพราะเขาเก่งในสายนี้อยู่แล้ว เป็นเหมือนครูผม พอเราอยู่ด้วยกันเราก็ได้เห็นในสิ่งที่เขาทำเราก็ทำตาม เราก็เรียนรู้กันมาเลยเป็นแบบที่เห็น ถามว่าจะมีฉลองครบรอบแต่งงานไหมจริงๆแล้วแพลนกันไว้ก็คือเดือนหน้า แต่ว่าวันที่ 22 เป็นวันครบรอบที่ได้รับสมรสพระราชทานก็เลย anniversary ไปก่อน แต่ว่าสำหรับครบรอบคิดว่าอาจจะมีเซอร์ไพร้ส์อาจจะเป็นช่วงเดือนหน้าของขวัญครบรอบหนึ่งปีเป็นเซอร์ไพร้ส์แล้วกันครับ“
“สำหรับผมเห็นหน้าเขาตอนหลับบางวันก็อาจจะมีกรนบ้าง แต่ว่าผมก็ตื่นก่อนเขา ปกติผมตื่นไปทำงานอยู่แล้ว ก็เลยติดกันตื่นเป็นเวลาบางทีตื่นนอนลงมาข้างล่างก็สั่งนู้นสั่งนี่มารอเขา ตื่นสั่งมาตอน 8 โมงแต่เขาตื่นบ่ายสอง เขาเป็นคนนอนดึกก็เลยอาจจะต้องตื่นสาย จะมีลูกเมื่อไหร่ดี ก็ตั้งใจมีให้เร็วที่สุด แต่ว่ามันก็ต้องเตรียม ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะมีปีนี้แต่เพราะว่ามันก็อยู่ในหลายปัจจัย (เป็นเจ้าของโรงพยาบาลเคสนี้ท้าทายแค่ไหน) ผมชอบที่หมอห้ามว่าอยากกินแบบนี้อย่าทำแบบนี้ช่วงแรกๆเค้าก็ดื้อแต่หลังหลังน่ารักมากทำตาม“
ขอบคุณภาพกอบจาก: kambum
