บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ‘CHANGAN Automobile’ ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยมี จิรวรรณ สุตสุนทร รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และ อู๋ เสี่ยวคัง รองประธานบริหารฝ่ายบุคคล บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย เกา หยิง รองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการบริการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ เจษฎา จันทร์อุไร ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน

‘จิรวรรณ สุตสุนทร’ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงจากการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ส่งผลให้ตลาดแรงงานมีความต้องการบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทางเพิ่มสูงขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมซ่อมบำรุงและบริการรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านสถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ (AHRDA) เพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่แรงงานในพื้นที่ 41 จังหวัดทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายฝึกอบรมแรงงานจำนวน 2,000 คนภายในปี 2568

ด้าน ‘เซิน ซิงหัว’ กล่าวว่า นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย การร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับศักยภาพของบุคลากรไทยในสายงานซ่อมบำรุงและบริการรถยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดอีวีเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำความตั้งใจในการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดแรงงานในอนาคต นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อผลักดันประเทศไทยสู่เวทีโลก พร้อมยืนยันว่าจะยังคงนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดยานยนต์ไทย ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

ในโอกาสเดียวกันนี้ ภายในงานยังมีการมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้าตามมาตรฐานศูนย์บริการยานยนต์ จำนวน 16 คน ซึ่งผ่านการฝึกอบรมในช่วงวันที่ 21–24 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่การอบรมเชิงเทคนิคในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังมีแผนขยายการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานกำลังแรงงานที่มีคุณภาพ รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต