ศิลป่า เขาใหญ่ มีเป้าหมายในการเป็นแรงบันดาลใจ ขับเคลื่อนวงการศิลปะไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น และมีความตั้งใจในการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านวัฒนธรรมในระดับภูมิภาค

ผลงานแต่ละชิ้นที่จัดแสดงผ่านการคัดเลือกโดย สเตฟาโน ราโบลลี แพนเซรา (Artistic Director) ซึ่งเป็นสถาบันศิลปะรูปแบบใหม่ที่ริเริ่มแนวคิดเรื่อง “ศิลป่า” ที่มาจากคำว่า “ศิลปะ” และ “ป่า” สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะสนับสนุนและผลักดันการสร้างสรรค์งานของศิลปินในสภาพแวดล้อมธรรมชาติให้เกิดขึ้นจริง มาเนรมิตพื้นที่ให้เป็นนิทรรศการที่ผสานศิลปะ ธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาแลกเปลี่ยนความคิดและทำงานร่วมกัน โดยให้ความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติ ผ่านการนำเสนอโครงการศิลปะที่หลากหลาย และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างผู้คน ศิลปะ และธรรมชาติ
ผู้มาเยี่ยมเยือน Khaoyai Art Forest จะได้เดินชมงานศิลปะจัดแสดงตามเส้นทางเดินป่า เริ่มด้วย เจ้าแมงมุมยักษ์ Maman ผลงานของ หลุยส์ บูร์ชัวส์ ศิลปินชาวฝรั่งเศส-อเมริกัน เป็นประติมากรรมแมงมุมบรอนซ์ขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางศิลป่า เขาใหญ่ ก่อเกิดเป็นบริบทใหม่ที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบอย่างลึกซึ้ง ผลงานชิ้นนี้มักถูกนำไปจัดแสดงในพื้นที่สาธารณะท่ามกลางบริบทของความเป็นเมืองและสถาบันศิลปะทั่วโลก ทว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ของศิลป่า เขาใหญ่ก็ได้แปรเปลี่ยนไปสู่ความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับภูมิทัศน์โดยรอบ

Madrid Circle ผลงาน ริชาร์ด ลอง ศิลปินชาวอังกฤษ สะท้อนความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งท่ามกลาง ศิลป่า เขาใหญ่ ที่ซึ่งศิลปะหลอมรวมเข้ากับธรรมชาติ เกิดเป็นบทสนทนาเกี่ยวกับสถานที่ การดำรงอยู่และการไหลเวียนของเวลา ส่วน GOD ผลงาน ฟรานเชสโก อารีนา ศิลปินร่วมสมัยชาวอิตาเลียน เป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งทางความคิด สะท้อนถึงแนวคิดเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ของมนุษย์และปฏิสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับความทรงจำทางวัฒนธรรม

Pilgrimage to Eternity ผลงาน อุบัติสัตย์ ศิลปินและนักกิจกรรมทางสังคมชาวไทย โดยเชื่อมโยงระหว่างขนบดั้งเดิมและความร่วมสมัย ความศักดิ์สิทธิ์และธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน มีรากฐานจากศิลปะการสร้างเจดีย์ศาสตร์ที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในประเทศไทย

K-BAR ผลงาน เอล์มกรีน&แดร็กเซต ศิลปินคู่หููชาวสแกนดิเนเวีย เป็นผลงานศิลปะจัดวางเฉพาะพื้นที่เกิดจากการตีความศิลปะในเชิงภูมิสถาปัตยกรรมผ่านมุมมองของศิลปินทั้งคู่ สะท้อนแนวคิดของความแปลกแยก โดยการนำองค์ประกอบของความหรููหราในเมืองมาแทรกลงในสภาพแวดล้อมธรรมชาติอันห่างไกล

Two Planets Series ผลงาน อารยา ราษฎร์จำเริญสุข ศิลปินร่วมสมัยที่่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศไทย เป็นผลงานที่นำโลกสองใบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาบรรจบกัน ระหว่างชาวบ้านในชนบทของไทยและผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงในโลกตะวันตก ผ่านการฉายภาพเขียนจำลองจิตรกรรมตะวันตกชิ้นเอกท่ามกลางบรรยากาศชนบท

ไฮไลท์ของงานคือ Khao Yai Fog Forest ที่ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปิน Fujiko Nakaya ตัวอย่างสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ระหว่างศิลปะกับธรรมชาติที่ถูกนำเสนอผ่านรูปแบบศิลปะ “แลนด์อาร์ตในยุุค 2.0” ซึ่งแตกต่างจากแบบดั้งเดิมที่มักสร้างสรรค์รูปทรงเรขาคณิตเข้าไปครอบงำบริบทของธรรมชาติ แต่นากายะกลับเผยให้เห็นพลังงานที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในระบบนิเวศ โดยหมอกเป็นเสมือนสื่อกลางที่ขับเน้นการรับรู้พลวัตของสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ฟิตร่างกายให้พร้อม แต่งตัวให้ทะมัดทะแมง แล้วไปสนุกกับ Khaoyai Art Forest เดินป่าใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมชมงานศิลปะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินไกลไหม? บอกเลยว่าไกลแน่นอน แต่ระหว่างทางมีจุดบริการเครื่องดื่ม และผ้าเย็น ไว้คอยเติมพลังให้
ส่วนใครที่อยากทานกาแฟ มีคาเฟ่ Arabica ให้ได้นั่งจิบท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมวิวอลังการ Maman เจ้าแมงมุมยักษ์ ให้ได้มองกันเพลิน ๆ ซึ่งหากใครไม่สะดวกเดินป่า อยากแค่นั่งทานกาแฟ เยี่ยมชมเจ้าแมงมุม เข้าใช้บริการฟรี เสียแค่ค่าเครื่อดื่มเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีบริการมื้ออาหารกลางวัน และอาหารเย็น Forest Foods จาก “เชฟหนุ่ม” วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ ร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ รางวัลบิบ กูร์มองด์ จังหวัดอุดรธานี ที่มารังสรรค์เมนูเด็ดให้ทุกคนได้ชิมกัน โดยพยายามใช้วัตถุดิบคุณภาพที่อยู่ในท้องถิ่น มาสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับผู้รับประทาน จนได้เมนูที่น่าสนใจมากมายทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น
อาหารของศิลป่า เขาใหญ่ เป็นการนำเสนออาหารจากธรรมชาติ โดยไม่ยึดติดกับ Cuisine ใด ๆ แต่เลือกใช้ภูมิปัญญาต่าง ๆ เพื่อเล่าเรื่องผ่านจานอาหารที่พูดถึงป่า และฤดูกาลรอบเขาใหญ่
สำหรับมื้อเย็นจะเสิร์ฟเป็น Full Corse โดยมีการปรับเปลี่ยนเมนูไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบประจำฤดูกาล และในอนาคตจะมีการเปิดร้านอาหารในโครงการ และ Workshop เกี่ยวกับอาหารให้ได้ไปฝากท้องกันเร็ว ๆ นี้
ศิลป่า เขาใหญ่ เปิดให้เข้าชมวันพฤหัสบดี-ศุกร์ เวลา 12.30-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-18.00 น. กิจกรรม Fog Forest Experience มีช่วงเวลา 16.00 น. ทุกวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30 น. และ 16.30 น. ดูเพิ่มเติมที่ https://www.khaoyaiart.com