เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยอ้างว่ามีอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร้องเรียนว่าถูกบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ยอมรับว่ามีการฮั้ว สว. เกิดขึ้น ว่า ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่จังหวัดอำนาจเจริญ และพยานบุคคลกว่า 10 ปาก ซึ่งพยานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องหนังสือของผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญนั้น กำลังตรวจสอบ เนื่องจากโดยหลักการสอบสวนคดีพิเศษ เรามีพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 22 ถ้าเป็นคดีพิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวน หากมีการประสานงานไป ต้องให้ความร่วมมือ แต่ถ้าไม่ร่วมมือ จะมีโทษที่เกี่ยวข้อง จำคุก 1-10 ปี ซึ่งได้ให้อธิบดีดีเอสไอใช้กฎหมายและข้อบังคับ เพราะที่ จ.อำนาจเจริญ มีพยานกว่า 300 ปาก แต่ไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด เนื่องจากได้หลักฐานที่เป็นพยานวัตถุ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ สามารถย้อนกลับไปดูในที่เกิดเหตุได้ รวมถึงร่องรอยทางโทรศัพท์ ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีอุปสรรคในการสืบสวนสอบสวน แต่ถ้ามีอุปสรรค ก็ขอให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษใช้กฎหมายและข้อบังคับที่ออกในปี 2547 ดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ 3 คน ที่ลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ และถูกร้องเรียน เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจริงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นพนักงานสอบสวนของดีเอสไอจริง และได้รับความร่วมมือดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ จึงแจ้งว่ามีการข่มขู่พยาน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่เคยแจ้งมาที่ตน หากผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พบการข่มขู่ ขอให้รายงานมาที่ตน อีกทั้งพนักงานสอบสวนของดีเอสไอลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ตามคำเรียกร้องของพยาน ว่าถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงอยากให้ดีเอสไอไปสอบปากคำ ขณะเดียวกันไม่มีเงินที่จะเดินทางมาที่กรุงเทพฯ

เมื่อถามว่าขั้นตอนสอบสวนคดีการฮั้วเลือก สว. จะเสร็จแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการของพนักงานสอบสวน ตนไม่สามารถแทรกแซงได้ แต่ไม่มีปัญหาและอุปสรรค

ต่อข้อถามว่าคดีนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีเรื่องการเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน เพราะเรื่องเป็นคดีพิเศษก็ว่ากันไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน จะทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย ข้อบังคับ และพยานหลักฐาน ไม่ได้ เช่นเดียวกันบุคคลจะมีอิทธิพลเหนือกฎหมายไม่ได้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าดีเอสไอเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา สว. 138 คน และ สว.สำรอง อีก 2 คน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องไปถามอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งขณะนี้ทำงานหนัก และให้คำนึงว่าเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจ ขอให้ทุกขั้นตอนมีพยานค้ำยันทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงเส้นทางการเงิน และการใช้โทรศัพท์ติดต่อ ประกอบกับหลักและเหตุผล

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีโอกาสแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ หลังครบ 2 เดือนแล้ว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มีรายงานว่ามาจะเร่งรัดตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ถึงต้นเดือน พ.ค. นี้ ก็รอดูอยู่ ทั้งนี้ ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการสอบพยานมากนัก เพราะกลัวมีข้อครหาว่าการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูลนั้น ก็ให้รอหมายเรียก ยังไม่แน่ชัดว่าจะทยอยออก หรือออกครั้งเดียว

เมื่อถามว่าการสอบสวนคดีนี้ จะเชื่อมโยงไปยังนักการเมืองหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หากโยงถึงใคร เราก็ดำเนินการหมด ไม่มีละเว้นใคร

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีชื่อรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เคยออกจากปากตน