เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานกรรมการบริหารสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก และพระธรรมาจารย์ติช เทียน เยิน ประธานกรรมการบริหารคณะสงฆ์เวียดนาม ได้ลงนาม ประกาศปฏิญญาโฮจิมินห์ เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของของโลก ครั้งที่ 20 ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำชาวพุทธนานาชาติ ว่า ในโอกาสที่พุทธศาสนิกชน และมนุษยชาติได้ร่วมกันจัดพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาแห่งสหประชาชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกลุ่มศาสนาพุทธ สภาสงฆ์ องค์กรทางพุทธศาสนา นักวิชาการ นักวิจัย และตัวแทนองค์กรเพื่อสันติภาพจาก 85 ประเทศ ได้มารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยพุทธศาสนาเวียดนาม เพื่อร่วมเฉลิมฉลองและเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ ภายใต้หัวข้อเรื่อง “ความสามัคคีและการครอบคลุมเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์: ข้อมูลเชิงลึกของชาวพุทธเพื่อสันติภาพโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน” ขอประกาศปฏิญญาโฮจิมินห์ ดังนี้
1.ความสามัคคีและการมีส่วนร่วมเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 1.1 เราให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความสามัคคีเพื่อศักดิ์ศรีของมนุษยชาติทั้งหมด โดยให้มนุษยชาติเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งศักดิ์ศรีได้รับการเชิดชูและไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมกันนี้ เราขอยืนยันถึงความสำคัญของการเสริมสร้างการตอบสนองของพุทธศาสนาต่อความท้าทายระดับโลกและปัญหาเร่งด่วนในยุคสมัย รวมถึงความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม การเลือกปฏิบัติ และแบ่งขั้วทางการเมือง ซึ่งยังคงบ่อนทำลายสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ 1.2. เราเรียกร้องให้สนทนาข้ามวัฒนธรรมและข้ามศาสนา เพื่อเป็นหนทางในการเชื่อมช่องว่าง สร้างความไว้วางใจ และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชาวพุทธในการเจรจาระหว่างประเทศและความพยายามแก้ไขข้อขัดแย้งที่มุ่งส่งเสริมความสามัคคีระดับโลกที่ยั่งยืน

1.3 เราขอยืนยันว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับสันติภาพ ความยุติธรรม การไม่ใช้ความรุนแรง และความเท่าเทียม และขอเรียกร้องให้ผู้นำโลกยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ให้สอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) 1.4 เราสนับสนุนการบูรณาการค่านิยมทางจริยธรรมของพุทธศาสนาในการกำหนดนโยบายและการปกครอง โดยให้แน่ใจว่าความเมตตา ปัญญา และความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมจะกำหนดกระบวนการตัดสินใจในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ 1.5. เราสนับสนุนหลักการของพระพุทธศาสนาที่มุ่งมั่นเป็นพลังการเปลี่ยนแปลงในการแก้ไขความยากจนและผลักดันความพยายามขจัดความหิวโหยและความอดอยาก นอกจากนี้ เรายืนยันถึงความเกี่ยวข้องของหลักการในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและยั่งยืนทางระบบนิเวศ เราเรียกร้องให้โลกพุทธศาสนามีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นในการริเริ่มเพื่อความยุติธรรมทางสังคม
2.การปลูกฝังสันติภายในเพื่อสันติภาพโลก 2.1 เราตระหนักว่าความสงบภายในเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับสันติภาพโลก ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นสากลต่อสติ จริยธรรม และปัญญา เป็นรากฐานของความสามัคคีที่ยั่งยืนภายในบุคคลและสังคม 2.2 เราสนับสนุนการบูรณาการแนวทางการไกล่เกลี่ยเชิงพุทธโดยใช้สติและสมาธิเป็นฐาน การทูต และการริเริ่มปรองดองหลังความขัดแย้ง โดยตระหนักถึงประสิทธิผลการส่งเสริมความยืดหยุ่นทางอารมณ์ การสื่อสารโดยไม่ใช้ความรุนแรง และรักษาสันติภาพแบบองค์รวม 2.3 เราเรียกร้องให้รัฐบาลและสถาบันทั่วโลกนำการฝึกสติและความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมมาใช้ เพื่อให้มีทักษะควบคุมอารมณ์ ความชัดเจนทางศีลธรรม และการบริหารจัดการด้วยความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น 2.4. เราสนับสนุนจัดตั้งศูนย์พุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ ความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรม และวิธีการแก้ไขข้อขัดแย้งที่มีพื้นฐานมาจากปรัชญาพุทธศาสนา 2.5 เราขอเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลก ได้นำพุทธปัญญามาบูรณาการเข้ากับการกำหนดนโยบาย และโครงสร้างการกำกับดูแล เพื่อให้แน่ใจว่าการตัดสินใจทำด้วยความชัดเจน สมดุล และคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว

3.การให้อภัย การเยียวยาอย่างมีสติ และการคืนดี 3.1 เราขอยืนยันว่าการให้อภัยและเยียวยาใจอย่างมีสติเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุความยุติธรรมหลังความขัดแย้ง ความพยายามในการปรองดองจะส่งเสริมการรักษา การฟื้นฟูร่วมกัน และสันติภาพที่ยั่งยืน 3.2 เราเรียกร้องให้ส่งเสริมหลักธรรมทางพุทธศาสนาเกี่ยวกับความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ การวางอุเบกขาในการแก้ไขข้อขัดแย้ง โดยส่งเสริมการสนทนา ความเข้าใจ และการทูตเชิงจริยธรรม 3.3 เราสนับสนุนจัดตั้งโครงการการรักษาที่ยึดหลักการบำบัดทางจิตวิทยาแบบพุทธ โดยบูรณาการการทำสมาธิและสติ 3.4. เราเรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมการปรองดองที่ยึดหลักจริยธรรมของพุทธศาสนา เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการยุติธรรมให้ความสำคัญกับความสามัคคีในสังคมอย่างลึกซึ้ง การมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุม และความรับผิดชอบต่อศีลธรรมในสังคมที่แตกแยก
4.ความเมตตาของพุทธศาสนาในการปฏิบัติ ความรับผิดชอบร่วมกันในการพัฒนาของมนุษยชาติ 4.1 เราเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและอิงตามความต้องการ โดยมีโครงสร้างบนหลักพุทธศาสนาเกี่ยวกับการกระจายความมั่งคั่งอย่างมีจริยธรรมและไม่ฟุ่มเฟือย รวมทั้งหลักศีลธรรมในการให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มากกว่าการแสวงหากำไร 4.2 เราเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามแบบจำลองของเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน และการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจริยธรรมนิเวศของพุทธศาสนา 4.3 เราสนับสนุนรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยหลักพุทธศาสนา ส่งเสริมการใช้แรงงานอย่างมีจริยธรรม เศรษฐกิจการค้าที่เป็นธรรม และรูปแบบเศรษฐกิจที่เห็นอกเห็นใจซึ่งเสริมพลังให้กับประชากรที่ถูกละเลย และเพิ่มความมั่นคงของมนุษย์ 4.4 เราขอเรียกร้องให้ผู้นำที่มีบทบาทกำหนดนโยบาย นำคำสอนของพุทธศาสนาเกี่ยวกับความเอื้อเฟื้อ และดำรงชีวิตที่ถูกต้อง เข้าไปเป็นนโยบายความยุติธรรมทางเศรษฐกิจ 4.5. เราเรียกร้องให้ลงทุนเพิ่มขึ้นในโครงการริเริ่มด้านมนุษยธรรมของชาวพุทธ เพื่อแก้ไขวิกฤติเร่งด่วนของความยากจน ความหิวโหย การอพยพ และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ผ่านความพยายามทางการกุศลที่ได้รับการชี้นำ

5.การฝึกสติในการศึกษาเพื่ออนาคตและความยั่งยืนของมนุษยชาติ 5.1 เราสนับสนุนการบูรณาการการอบรมจริยธรรมทางพระพุทธศาสนาและการศึกษาสติเข้ากับหลักสูตรโรงเรียน โปรแกรมการพัฒนาครู และกรอบการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อปลูกฝังภูมิปัญญา ความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม 5.2 เราขอเรียกร้องให้สถาบันการศึกษานำเอารูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นความเห็นอกเห็นใจมาใช้ โดยเน้นการใช้เหตุผลทางศีลธรรม สื่อสารโดยไม่ใช้ความรุนแรง และการสอนที่เน้นไตร่ตรองให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสังคมที่กลมกลืนและมีจริยธรรม 5.3 เราเรียกร้องให้มีการนำกระบวนการเรียนรู้ที่มีสติเป็นฐาน (Mindfulness Based Learning) ไปใช้ในการการจัดการศึกษา และการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี (Wellness) การแก้ปัญหาทางจริยธรรม และความเครียดที่เพิ่มมากขึ้นจากแรงกดดันทางสังคมและเทคโนโลยีสมัยใหม่
6.การส่งเสริมความสามัคคีความพยายามร่วมกันเพื่อความสามัคคีทั่วโลก 6.1 เราขอเรียกร้องให้ผู้นำทางศาสนาพุทธมีบทบาทเชิงรุกในภารกิจสันติภาพของสหประชาชาติ และเวทีระหว่างศาสนา เพื่อสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้ง สร้างสันติภาพ และปรองดอง 6.2 เราขอรับรองว่าค่านิยมทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับการไม่ใช้ความรุนแรงและความรับผิดชอบร่วมกันควรเป็นตัวกำหนดนโยบายด้านภูมิอากาศและกลยุทธ์ในการตอบสนองต่อภัยพิบัติ 6.3 เราสนับสนุนการอุทิศตนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การฟื้นฟูหลังสงคราม และการปกป้องระบบนิเวศ โดยการระดมทรัพยากรทางพุทธศาสนาจากทั่วโลกเพื่อตอบสนองต่อวิกฤติและความท้าทายทางสังคม 6.4. เราขอแสดงความเคารพนับถืออย่างสูงต่อพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าศากยมุนี ซึ่งเป็นสมบัติของชาติของอินเดีย และพระบรมสารีริกธาตุพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์ ติช กว๋าง ดึ๊ก แห่งเวียดนาม ซึ่งถือเป็นมรดกอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติเพื่อสันติภาพโลก โดยประดิษฐานไว้ ณ วันวิสาขบูชาแห่งสหประชาชาติ ปี 2568 ณ นครโฮจิมินห์

7.เจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชาแห่งสหประชาชาติประจำปี 2569 สภาสากลวันวิสาขบูชาโลกมีความยินดีที่จะประกาศการอนุมัติและการสนับสนุนสมาคมพุทธศาสนาแห่งประเทศจีนในการเป็นเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 21 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ. 2569
พวกเราในฐานะผู้แทนที่มาร่วมประชุม ขอยืนยันความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของเราในการใช้ภูมิปัญญาของชาวพุทธ ความรับผิดชอบทางจริยธรรม และการดำเนินการร่วมกันเพื่อสันติภาพโลก ศักดิ์ศรีของมนุษย์ และความเป็นอยู่ที่ดีของโลก ขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญกับนโยบายสันติภาพ ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และความยุติธรรมทางเศรษฐกิจ แทนที่จะใช้กำลังทหารและการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สถาบันระดับโลกนำหลักจริยธรรมทางพุทธศาสนามาใช้ในการปกครอง การทูต และการพัฒนาที่ยั่งยืน องค์กรระดับโลกยอมรับว่าภูมิปัญญาพุทธศาสนาเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับการแก้ไขข้อขัดแย้ง และจริยธรรม ชุมชนชาวพุทธนานาชาติมีส่วนร่วมในความพยายามร่วมกันในการสร้างภาวะผู้นำด้านจริยธรรม ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ และรักษาสิ่งแวดล้อม ขอให้วิสาขบูชา 2568 เป็นยุคใหม่แห่งความสามัคคีของโลก