สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่า ความต้องการเครื่องปรับอากาศจำนวนมากในอินเดีย ได้กระตุ้นความต้องการไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากการเผาถ่านหิน และเพิ่มปริมาณอากาศเสียจากเครื่องปรับอากาศ ที่ถูกขับออกมาบนท้องถนน ซึ่งร้อนระอุ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอ้าวของประเทศ
น.ส.อารตี แวร์มา วัย 25 ปี กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการบรรเทาความร้อนในทันที” เนื่องจากงานขายและการตลาดของเธอบังคับให้ต้องเดินทางไปตามร้านค้าหลายแห่งในแต่ละวัน และสภาพอากาศยังร้อนระอุอีกด้วย
India has sold a record 14 million air conditioners in 2024, with the number projected to increase by 2050
— WION (@WIONews) May 12, 2025
While this growth has offered comfort to many, it has also posed a challenge: the immense rise of electricity demand@JyotsnaKumar13 tells you more pic.twitter.com/kLRAafAIl8
เธอมีรายได้ 30,000 รูปีต่อเดือน (ราว 11,805 บาท) และมีแผนจะจ่ายเงิน 50,000 รูปี (ราว 19,675 บาท) เพื่อซื้อเครื่องปรับอากาศ โดยจะวางเงินดาวน์ 13,000 รูปี (ราว 5,121 บาท) และแบ่งจ่ายส่วนที่เหลือเป็นงวดรายเดือน เนื่องจากการนอนที่ชานบ้านในตอนกลางคืน ไม่สามารถบรรเทาความร้อนได้อีกต่อไป
อินเดียเป็นตลาดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเติบโตเร็วที่สุดในโลก แม้ว่าปัจจุบันจะมีครัวเรือนเพียงประมาณ 7% เท่านั้นที่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเติบโตดังกล่าวอาจหมายความว่า อินเดียจำเป็นต้องเพิ่มการผลิตไฟฟ้าเป็น 3 เท่าเพื่อตอบสนองความต้องการ
สำนักงานในอินเดียของบริษัทไดกิ้น หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศรายใหญ่ของญี่ปุ่น ให้ความเห็นว่า ความนิยมของเครื่องปรับอากาศในอินเดียนั้นเกิดจากสภาพอากาศ การเติบโตของชนชั้นกลาง ตัวเลือกทางการเงินที่เอื้ออำนวย และการใช้ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย ซึ่งทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ได้ถูกมองว่า เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุนที่จำเป็นต่อการพักผ่อน.
เครดิตภาพ : AFP