เป็นอีกหนึ่งดาราสาวมากความสามารถ สำหรับ “แพท ณปภา” คุณแม่ลูกหนึ่งสุดสตรอง ที่ตอนนี้ทั้งชีวิตรักและงานดีจนหลายๆ คนพากันอิจฉา เพราะมีสามีสุดหล่ออย่างหนุ่ม “พี ชานนท์” คอยเคียงข้างสาวแพทตลอดเวลา หลังที่เข้าพิธีแต่งงานกันทั้งคู่ก็ลุยฟิตร่างกายดูแลสุขภาพให้พร้อมตามแผนที่วางไว้ว่าจะมีเบบี๋ด้วยกันทันที แถมช่วงนี้สาวแพทได้มีการมาร่วมทำคอนเทนต์สนุกสนานกับน้องสาวสุดที่รัก “นาฟ ฉัฐนันท์” จนหลายคนติดอกติดใจชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก

ล่าสุด สาวนาฟ ได้เดินทางมาร่วมงานประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21 เธอได้เผยถึงเรื่องการตั้งครรภ์ของสาวแพท พร้อมทั้งตอบกระแสดราม่าในช่วงส่งท้ายปี 67 ที่เธอได้เผยคลิปข้างห้องส่งเสียงดังคล้ายกับกำลังมีอะไร รวมถึงเผยสาเหตุที่แตกหักกับ “เส้นด้าย” โดยเธอเผยว่า

“เรื่องของพี่แพทตอนนี้ก็เตรียมตัวมีน้องซึ่งเขาก็ดูฤกษ์กันไว้แล้วว่าจะต้องปล่อยตอนไหน ก็เร็วๆ นี้ คือเขาจะมีฤกษ์ว่าต้องท้องเดือนไหน คลอดเดือนไหน เป็นฤกษ์ที่แบบว่าดูไว้แล้วออกมาต้องจึ้งแน่นอน ภายในปีนี้ต้องปล่อยเลยแล้วก็ท้องเลย เตรียมตัวเลย ซึ่งหมอบอกว่าปล่อยเมื่อไหร่คือติดเมื่อนั้น เพราะอสุจิของคุณพี เป็นอสุจิที่แข็งแรงสุดสุด ก็รอดูว่าปล่อยปุ๊บติดปั๊บแน่นอน ซึ่งพี่แพทก็จอยๆ ปล่อยก็คือติดอยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายพี่แพทก็พร้อมกำลังดูแลตัวเองอยู่ ซึ่งถามว่าเราอยากได้หลานเพศไหนคือเป็นเพศไหนก็ได้เราชอบหมด แต่พี่แพทอยากได้ผู้หญิง ซึ่งหนูก็บอกกับพี่แพทว่าถ้าเป็นผู้ชายหนูก็จะสอนภาษาลู แต่ถ้าเป็นผู้หญิงหนูก็จะพาไปเรียนต่อยมวย พี่แพทเขาก็บอกว่าจะหญิงหรือชายเขาก็สามารถเลี้ยงได้หมด แต่เรซอยากได้น้องผู้หญิง

หลายคนสงสัยว่าเวลาทำคอนเทนต์ทำไมไม่แท็กพี่แพท คือเขาบล็อกหนูแล้วเขาเพิ่งปลดบล็อกหนู มันก็เลยแท็กกันไม่ได้ ซึ่งคนเรามันก็มีจุดที่ต้องบล็อกกันบ้าง คือมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันนิดนึง แล้วก็มีฟีลแบบงอนกันเหมือนแฟน ซึ่งหนูไม่ใช่แฟนของพี่แพท หนูเป็นน้องพี่แพท แต่เวลางอนเราก็ง้อเพราะว่าเรามีกันอยู่เท่านี้ ซึ่งตอนที่มีปัญหากันก็หกเดือน เพิ่งปลดบล็อกเมื่อตอนสองอาทิตย์ที่แล้ว คือมันเป็นเรื่องแบบงอนๆ กันเหมือนเราไม่ได้ใส่ใจกัน ซึ่งตอนเคลียร์กันก็เป็นการขอโทษแล้วก็ดีกัน ซึ่งหนูเป็นเด็กหนูทำอะไรหนูก็ขอโทษไว้ก่อน ผิดไม่ผิดไม่รู้แต่ขอโทษง้อไว้ก่อน คือแพทผู้สร้างนาฟ มีแพทก็ต้องมีนาฟ แล้วนาฟจะไม่มีแพทได้ยังไง แล้วช่วงที่บล็อกกันไปก็คือเป็นช่วงที่หนูเข้าออกโรงพยาบาลด้วยแล้วหนูก็ป่วยซึ่งยาที่หนูกินก็เป็นยาที่ให้หนูพักผ่อน ก็เลยแยกออกมาอยู่มาใช้ชีวิตคนเดียวในวัยสาว 25 ซึ่งตอนนี้ก็กลับคอนโดฯ ไม่ได้แล้วเพราะว่าแผ่นดินมันไหว ตึกมันร้าวก็เลยกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม”

นาฟ เผยต่อว่า “ตึกร้าวไม่พอข้างห้องมีอะไรกันก็โดนดราม่าอีก เป็นคนวิปริตเหรอทำไมถึงไปฟังข้างห้อง คือขอโทษนะพี่ๆ คือถ้าพี่ๆ มานอนแบบหนูแล้วได้ยินเสียงแบบนี้ ต้องเข้าใจหนูบ้างว่า หนูซื้อคอนโดฯ 7,000,000 หนูไม่ได้ซื้อคอนโดฯ เพื่อมาฟังเสียงอะไรแบบนี้ เป็นเสียงพระสวดอะไรยังพอทนนะ แต่นี่คือแบบมันไม่ได้ ถามว่านอยด์ไหม คือหนูรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่มันไม่ได้แบบให้คนดูเครียด ให้ดูเพื่อให้เกิดความสนุกสนาน ไม่ได้เป็นอะไรที่ให้คนเสพแล้วมันนอยด์มันเครียด แล้วมันจะมีข่าวเยอะแยะมากมายในช่วงนี้ที่ทำให้ทุกคนเครียด ก็เลยไม่ได้อยากนำเสนออะไรที่ทำให้ทุกคนเครียดไปอีก อยากให้ทุกคนดูแล้วสนุกดูแล้วเพลินไปกับเรา มาดูมุมมองชีวิตว่าเรามาเจออะไรบ้างในแต่ละวัน เพราะทุกวันเวลาของนาฟสามารถเป็นคอนเทนต์ได้ตลอด

สำหรับเรื่องของเส้นด้าย ถามว่าเป็นเพื่อนไหมก็เป็นเพื่อน ตั้งแต่กรุงศรีมาตีแตกคือมันก็แตกกันไปหมดแล้ว เราก็ไม่ได้กลับมาสนิทกันเหมือนเดิม ก็อาจจะไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน เพื่อนรอบข้างเราคนรอบข้างเราคนละกลุ่มคนละแก๊ง ก็เลยไม่สนิทเหมือนเดิม แต่ถามว่ารู้ไหมก็มีคนทักมาบอกว่า ฝากบอกให้เค้าตอบดีเอ็มของคนที่แบบโดนหน่อย เราก็แบบว่าไม่ได้ไปคุยกับเขาแล้ว เราก็เลยต้องบอกเค้าไปว่าขอโทษด้วยหนูไม่สามารถแบบไปบอกให้พี่ได้จริงๆ ก็อย่างที่บอกว่าพอมันแตกแล้วมันเป็นแผลแล้ว แล้วเวลาเราคบใครเราก็อยากจะให้ตัวเราและตัวเขาดีขึ้นด้วย ถ้าเราคบใครแล้วตัวเราดีขึ้นแล้วตัวเขาแย่ลง ก็เลยรู้สึกว่างั้นมีพื้นที่ว่างให้กันดีกว่า เจอก็ทักอยู่ด้วยกันได้เที่ยวด้วยกันได้แต่ไม่ได้อาจจะคุยกันได้ทุกเรื่องเหมือนเดิม แล้วคือเรื่องมันไม่ได้เป็นประเด็นของหนูตอนนั้นที่เพื่อนอีกคนให้อภัยก็คือมันเป็นเรื่องเล็กน้อย แล้วเอามาวีนทุกคนในกลุ่ม กลุ่มมันก็เลยแตก แล้วบูมให้อภัย แต่หนูก็ไม่ได้โกรธอะไรเพราะหนูรู้สึกว่าถ้าเราพูดแล้วเพื่อนไม่ฟังก็จะไม่พูดดีกว่า คือก็ยังคุยได้เจอก็ทักทาย

ถามว่าสนิทไหมก็อยู่ในจุดที่เราโตแล้ว เส้นด้ายก็โตกว่านาฟเยอะ มันก็เลยแบบว่าเวลาการพูดหรือการเตือนมันอาจจะมีแบบว่าเตือนไม่เหมือนกัน บวกกับหนูก็อยู่แบบนี้หนูรู้สึกสบายใจ ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะก็ได้ ซึ่งตอนนี้หนูก็ไม่ได้โกรธเขา แต่อยากให้เขาเคลียร์ตัวเองให้ได้ไวที่สุด และไม่ให้อยากให้ส่งผลกระทบและไม่ให้ใครเดือดร้อนเลยไม่ว่าเหตุการณ์ไหน ก็ขอให้คนที่ได้รับความเสียหายก็ได้อยู่จุดตรงกลางได้เคลียร์กันได้ไวที่สุด”