ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำปี ของยักษ์ไอทีของโลกอย่าง Google ที่จะขึ้นสำหรับนักพัฒนา ซึ่งในปีนี้ งาน I/O 2025 มีไฮไลต์สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

คอลลัมน์ “ชีวิตติด TECH”  จะพามาดูดันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ที่อาจจะเปลี่ยนโลกดิจิทัลและการใช้อินเทอร์เน็ตของเราในอนาคตข้างหน้า

ก่อนอื่นมารู้จักงาน งาน I/O กันก่อนว่าคืออะไร?  งาน I/O ถือเป็นงานใหญ่ของ Google เป็นงานประชุมนักพัฒนาประจำปี ที่เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ในปี 2008 หรือ พ.ศ.  2551 ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา  เหล่านักพัฒนาจะมาร่วมประชุมในเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ของกูเกิล  คลอลคลุมทั้งเรื่องระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ เว็บ เอไอ และคลาว์ด

โดยในงาน I/O 2025   ทาง “ซุนดาร์ พิชัย”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของ Google กล่าวว่า  Gemini   โมเดล AI ที่พัฒนาโดย Google มีผู้ใช้งานที่ใช้งานมากกว่า 400 ล้านคนในแต่ละเดือน โดยคนทั่วโลกกำลังนำ AI มาใช้ และทุกคนสามารถเข้าถึง AI ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

Google บอกว่า  กําลังนํางานวิจัยระดับแนวหน้ามาสร้าง A Iที่ฉลาดยิ่งขึ้น ทํางานได้อย่างอิสระ และตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้ดีกว่าที่เคย Gemini 2.5 เป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุด ของ Google ในงตอนนี้ สามารถทํางานกับข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ และโดดเด่นในการเขียนโค้ดได้อย่างน่าทึ่ง  

ขณะที่ Agent ขับเคลื่อนด้วย AIขั้นสูง เพื่อจัดการสิ่งต่างๆแทนผู้ใช้งานได้ โดยมี   มีการเผสานข้อมูลและความชอบเฉพาะตัวของผู้ใช้งาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหมาะกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้นในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ

อย่างไรก็ตามในงานนี้ ทาง Google ได้ระบุว่าเตรียมที่จะเปิดตัว “Google AI Ultra” ซึ่งเป็นการใช้งานแบบสมัครสมาชิกในราคา 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน หรือประมาณ 8,100 บาท ต่อเดือน ตกปีละเกือบ 1 แสนบาท แต่สิ่งที่จะได้ คือ การได้ใช้โมเดล AI ในระดับพรีเมียม ใช้งานได้สูงสุด เหมาะกับ  ผู้สร้างภาพยนตร์ นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ ที่จะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น โดยเริ่มให้บริการในสหรัฐฯแล้ว และเตรียมจะเปิดตัวในประเทศอื่นๆในเร็วๆนี้

 โดยเครื่องมือหลัก มาพร้อมทั้งการวิจัยเชิงลึก (Deep Research) การสร้างวิดีโอที่ล้ำสมัยด้วย Veo 2 และการเข้าถึงโมเดล Veo 3 ที่ก้าวล้ำที่ ได้รับการออกแบบมาสำหรับการเขียนโค้ด การวิจัยเชิงวิชาการ และงานสร้างสรรค์ที่ซับซ้อน  รวมถึง Deep Think ใน 2.5 Pro ซึ่งเป็นโหมดการให้เหตุผลขั้นสูงที่ได้รับการปรับปรุงที่ดีมากขึ้น

สำหรับ งาน”Google I/O 2025″ มี 6 ไฮไลท์ที่สำคัญ ประกอบด้วย

1.Gemini 2.5 มาพร้อมกับ Deep Think: โหมดการให้เหตุผลขั้นสูง

Gemini 2.5 Pro คือโมเดล AI ที่ชาญฉลาดที่สุดเท่าที่ Google เคยมีมา มาพร้อมกับ Deep Think โหมดการให้เหตุผลระดับสูงที่พัฒนาขึ้นจากงานวิจัยล่าสุดด้านกระบวนการคิดและการใช้เหตุผล โดยผสานเทคนิคล้ำสมัยอย่าง Parallel Thinking หรือการคิดไปพร้อมๆ กัน เพื่อยกระดับศักยภาพของโมเดลให้เหนือกว่าเดิมอย่างแท้จริง

2.โหมด AI: การค้นหายุคใหม่ด้วยพลังของ Gemini

โหมด AI คือวิวัฒนาการล่าสุดของ Google Search ซึ่งขับเคลื่อนด้วยขีดความสามารถขั้นสูงของ Gemini ผสานเข้ากับความสามารถในการทํางานแทนผู้ใช้งาน (Agentic) จาก Project Mariner เพื่อช่วยให้สามารถทําภารกิจต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาดและสะดวกยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันกีฬาแบบอัตโนมัติ หรือการช้อปปิ้งในรูปแบบใหม่ที่โหมด AI จะติดตามราคาสินค้าให้ด้วย พร้อมสั่งซื้อโดยอัตโนมัติเพื่อให้เราไม่พลาดข้อเสนอที่ดีที่สุด

3.Gemini: ผู้ช่วย AI ที่ตอบโจทย์ได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทํางานเชิงรุก และทรงพลังกว่าเดิม

ทาง Google ระบุว่าได้มุ่งมั่นพัฒนาแอป Gemini ให้เป็นผู้ช่วย AI ที่ทรงประสิทธิภาพและมีประโยชน์สูงสุดสําหรับผู้ใช้ ด้วยความสามารถในการให้ความช่วยเหลืออย่างเฉพาะบุคคล Gemini พร้อมสนับสนุนคุณทั้งในด้านการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ และการจัดทํารายงานวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยํา

4.Gemini Live: ประสบการณ์เฉพาะบุคคล พร้อมเปิดตัวแว่นอัจฉริยะรุ่นใหม่

Gemini Live เตรียมเปิดให้ใช้งานร่วมกับแอปยอดนิยมของ Google ได้โดยตรงในเร็วๆ นี้ เช่น Google Maps, Calendar, Tasks หรือ Keep พร้อมทั้งขยายขีดความสามารถจาก Project Astra มาสู่ Gemini Live อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทาง Google ยังเผยโฉมอุปกรณ์อัจฉริยะรูปแบบใหม่อย่าง “แว่นอัจฉริยะ” โดยได้รับ ความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์แบรนด์ดังระดับโลก อย่าง Warby Parker และ Gentle Monster จากเกาหลีใต้ เข้าร่วมโครงการ

5. AI สําหรับการเล่าเรื่อง : เครื่องมือทรงพลังเพื่อครีเอเตอร์ยุคใหม่

ถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญ โดย Google เตรียมนําโมเดล AI ขั้นสูงอย่าง Imagen 4 และ Veo 3 มาให้ใช้งานผ่านแอป Gemini เพื่อยกระดับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ครีเอเตอร์ โดย Imagen 4 คือโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันล่าสุดที่ทรงพลังที่สุดให้ภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สีสันสมจริง และความละเอียดในระดับสูง ส่วย  Veo 3 มาพร้อมคุณภาพของภาพที่เหนือกว่า เข้าใจธรรมชาติตามหลักฟิสิกส์ได้ลึกซึ้งขึ้น ใช้งานควบคุมได้ง่ายยิ่งขึ้น และล่าสุดสามารถสร้างเสียงประกอบแบบเนทีฟได้ในตัว

6.Flow : ศักยภาพใหม่แห่งการสร้างภาพยนตร์ด้วย AI

ในงานนี้ ทาง Google ยังได้เปิดตัว Flow เครื่องมือสร้างภาพยนตร์ด้วย AI เจเนอเรชันใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้สามารถรังสรรค์เรื่องราวและฉากต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น โดยผสานพลังของเทคโนโลยีจาก Google ไม่ว่าจะเป็น Veo, Imagen และ Gemini เพื่อให้ใส่เอฟเฟกต์พิเศษ เช่น สไลม์หรือเปลวไฟได้อย่างง่ายดาย และในอนาคตเร็วๆนี้ Flow จะสามารถสร้างเสียงประกอบและบทสนทนาของตัวละคร ได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย

ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าโลกของ AI กำลังจะมาเปลี่ยนชีวิตของคน พร้อมรับมือกันหรือยัง!?!

Cyber Daily

ภาพ : Google