เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายทิตย์ วัย 48 ปี และ นางหล้า วัย 42 ปี สองสามีภรรยาชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเอกสารหลักฐานเดินทางมายังมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยมี ทนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ เป็นผู้รับเรื่องราวร้องเรียน
นายทิตย์ เล่าด้วยความเศร้าว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ตนและภรรยาต้องการปรึกษาทนายความกรณีให้เพื่อนสนิทยืมเงินไป 100,000 บาทแล้วไม่ยอมจ่าย ภรรยาของตนจึงเดินทางไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ และได้พบกับ นายเอ (นามสมมุติ) วัย 70 ปี ทนายความอาสา ซึ่งได้กวักมือเรียกภรรยาของตนให้เข้าไปหาและสอบถามเรื่องราว พร้อมแสดงความยินดีที่จะช่วยเหลือในฐานะทนายอาสา
ภรรยาของนายทิตย์จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นายเอ ฟัง โดยนายเอ เรียกค่าดำเนินการว่าความจำนวน 15,000 บาท และต่อมาคู่กรณีก็ได้ยินยอมชดใช้เงินจำนวน 100,000 บาทตามที่ตกลง
เหตุการณ์เลวร้ายเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2566 เมื่อภรรยาของนายทิตย์ไปปรึกษาหารือกับนายเอ อีกครั้ง กรณีถูกน้องสาวของภรรยายื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งนายเอ ได้บอกให้ภรรยาไปคุยกันในรถที่จอดอยู่ด้านหลังของศาลจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นก็เริ่ม ลวนลาม กอดจูบ ลูบคลำภรรยาของตน ซึ่งภรรยาพยายามขัดขืน แต่กลับถูกนายเอ พูดจาข่มขู่ว่าสามารถใช้กฎหมายกลั่นแกล้งดำเนินคดีได้ หากไม่ยินยอมหรือขัดขืน ก่อนจะขับรถพาภรรยาไปที่โรงแรม Little Inn และ ใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 นายเอ ได้เรียกภรรยาของนายทิตย์ออกมาพบ และพาไปข่มขืนภายในโรงแรมอีกครั้ง แม้ภรรยาจะมีประจำเดือน แต่นายเอ ก็ บังคับให้อมอวัยวะเพศจนสำเร็จความใคร่ และในวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 นายเอ ยังคงเรียกภรรยาของนายทิตย์ออกมาพบ และพาไปข่มขืนสำเร็จความใคร่อีกเป็นครั้งที่ 3
นายทิตย์เล่าด้วยความปวดร้าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ภรรยาของตนกลายเป็น โรคซึมเศร้า และคิดมาก ส่วนตนเองซึ่งป่วยและพิการจากอุบัติเหตุสมองได้รับการกระทบกระเทือน ต้องยังชีพด้วยเบี้ยคนพิการ ขณะที่ภรรยาซึ่งเคยขายของอยู่ในตลาดสดก็ไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ตามปกติ เพราะถูกนายนิคมสร้างตราบาปไว้ให้
นายทิตย์กล่าวว่า ตนได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ว่านายเอ มีเส้นสายที่ดี จนกระทั่งสำนวนทั้งหมดถูกส่งไปที่อัยการ และ อัยการกลับสั่งไม่ฟ้อง ทำให้ตนและภรรยารู้สึกเสียใจมาก เหมือนตายทั้งเป็น จึงต้องการให้กฎหมายดำเนินคดีกับนายเอ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตนและภรรยาด้วย
ด้าน ทนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า คดีนี้เท่าที่ทราบอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อเยียวยาค่าเสียหายให้กับคู่กรณี โดยจะชดใช้เป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งตนมองว่าไม่มีความเป็นธรรมกับการกระทำของทนายคนนี้ เบื้องต้นจะขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือสองสามีภรรยารายนี้ต่อไป